จากนโยบาย “เปลี่ยนแนวทางการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากกระจุกเป็นกระจาย” และ “กระจายอำนาจและงบประมาณเพื่อให้บริการขนส่งสาธารณะ” ความท้าทายต่อไปคือการเปลี่ยนความต้องการของผู้ใช้บริการ (demand) ให้เป็นโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ซึ่งโอกาสในการพัฒนาที่เราเห็นคือ
• ความเสื่อมโทรมของรถโดยสาร: ปัจจุบันประเทศไทยมีรถโดยสารสาธารณะประมาณ 47,212 คัน โดยกว่า ร้อยละ 68 เป็นรถสองแถวและรถตู้ ที่มีสภาพเก่าและขาดมาตรฐานความปลอดภัย
• ข้อจำกัดทางกายภาพของเมือง: ถนนในไทยจำนวนมากมีลักษณะเป็นตรอก ซอก ซอยขนาดเล็ก ซึ่งรถเมล์ขนาดใหญ่เข้าไม่ถึง ขณะที่รถตู้และรถสองแถว (ซึ่งดัดแปลงมาจากรถขนส่งสินค้า) มีปัญหาเรื่องความสะดวกในการขึ้น-ลง และความปลอดภัยต่อผู้โดยสาร
• โอกาสในการสร้างนวัตกรรมของคนไทย: ประเทศไทยมีศักยภาพด้านแรงงานและเทคโนโลยีที่พร้อมต่อการวิจัยและพัฒนา รถโดยสารไฟฟ้า (Electric Vehicle Bus - EV Bus) แบบนวัตกรรมไทย 100% แต่ยังขาดตลาดรองรับที่ใหญ่พอในการผลักดันเข้าสู่ ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ระดับสากล
เราจะสร้างตลาดใหม่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยเน้นการผลิต “รถเมล์ไฟฟ้านาโนบัส (Nano Bus)” เพื่อทดแทนรถตู้และรถสองแถวในพื้นที่เขตเมืองที่มีความหนาแน่นสูง:
1. สร้างตลาดใหม่ด้วย Nano Bus: พัฒนารถโดยสารไฟฟ้าขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อสัญจรในซอยโดยเฉพาะ มีความปลอดภัยสูง ขึ้น-ลงง่าย และช่วยลดปัญหารถติดจากการกีดขวางจราจรขณะรับส่งผู้โดยสาร
2. ส่งเสริมการผลิตในประเทศ: ผลักดันการผลิตแบบใกล้เคียง 100% ภายในประเทศ เพื่อสร้างงานและรายได้จากการผลิตและนวัตกรรมใหม่ๆ
3. ขยายผลสู่การส่งออก: มุ่งเป้าส่งออก Nano Bus ไปยังตลาดเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีลักษณะผังเมืองที่เป็นตรอกซอกซอยและมีประชากรหนาแน่นคล้ายคลึงกับประเทศไทย
1. แผนการจัดซื้อและยกระดับมาตรฐานบริการ
จัดทำแผนจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อทดแทนรถที่หมดอายุการใช้งานหรือหมดใบอนุญาต ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ 15 หัวเมืองหลัก เพื่อยกระดับการให้บริการขนส่งสาธารณะให้ทันสมัย
2. การประกวดออกแบบและขึ้นทะเบียนนวัตกรรม
จัดประกวดออกแบบรถ Nano Bus ต้นแบบที่เหมาะสมกับบริบทไทยภายใน 2 ปี เพื่อนำรถที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ บัญชีนวัตกรรมไทย (Thai Innovation List) เปิดทางให้หน่วยงานรัฐและ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้โดยตรงพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
3. การบริหารจัดการและสนับสนุนโดยท้องถิ่น
ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป อปท. จะเป็นผู้เลือกจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (ทั้งขนาดใหญ่ มินิบัส และนาโนบัส) ตามความเหมาะสมของแต่ละเส้นทาง โดยมีรัฐบาลส่วนกลางสนับสนุนงบประมาณอุดหนุนเพื่อยกระดับการให้บริการร่วมกับภาคเอกชน
4. เป้าหมายการผลิตและการเปลี่ยนผ่าน
ตั้งเป้าภายใน 4 ปี ให้มีรถเมล์ไฟฟ้าประเภท Nano Bus อย่างน้อย 3,000 คัน รวมทั้งมินิบัสไฟฟ้าและรถเมล์ไฟฟ้าขนาดอื่นอีก 2,600 คัน เข้าสู่ระบบขนส่งทั่วประเทศ โดยคาดการณ์จากการเปลี่ยนรถที่หมดอายุการใช้งานเฉลี่ยปีละ 1,400 คัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิตรถเมล์ไฟฟ้าไทยอย่างครบวงจร