ประเทศไทยเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการเดินทางอย่างรุนแรง เนื่องจากงบประมาณส่วนใหญ่ถูกทุ่มไปกับการสร้างถนน แต่ละเลยการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ ปัญหาด้านขนส่งสาธารณะที่คนไทยต้องเจอคือ
• ต้องพึ่งพารถส่วนตัวสูง: ในต่างจังหวัดแทบไม่มีระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ ประชาชนจึงจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินมาซื้อรถยนต์หรือจักรยานยนต์ ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนสูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุบนท้องถนน
• รัฐราชการรวมศูนย์: ปัญหานี้เกิดจากอำนาจการตัดสินใจเรื่องเส้นทางและใบอนุญาตเดินรถถูกผูกขาดโดยส่วนกลาง ซึ่งไม่เข้าใจสภาพปัญหาและความต้องการจริงในแต่ละพื้นที่
• ขาดการอุดหนุนจากภาครัฐ: ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) รายย่อยขาดงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ ทำให้บริการเสื่อมโทรมและทยอยยกเลิกกิจการไปในหลายเมือง
เราจะสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ ราคาถูก และเข้าถึงได้ง่าย ผ่านการกระจายอำนาจและงบประมาณให้ท้องถิ่นเป็นผู้บริหารจัดการเอง:
1. ผลักดันกฎหมายกระจายอำนาจ: เพื่อให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีอำนาจเต็มในการกำหนดเส้นทางและบริหารจัดการรถโดยสาร
2. ยกระดับ 15 หัวเมืองเร่งด่วน: พัฒนาโครงข่ายขนส่งสาธารณะในเมืองที่มีความหนาแน่นสูงเพื่อเป็นโมเดลต้นแบบในการลดการใช้รถส่วนบุคคล
3. จัดสรรงบประมาณอุดหนุน: เปลี่ยนงบสร้างถนนบางส่วนมาเป็นงบสนับสนุนการเดินรถในท้องถิ่น เพื่อให้บริการครอบคลุมและยั่งยืน
1. เสนอร่างพระราชบัญญัติกระจายอำนาจขนส่ง
• ปรับปรุง พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อโอนอำนาจการบริหารจัดการ อัตราค่าโดยสาร และการอุดหนุนงบประมาณไปสู่ อปท. โดยตรง
• ปรับบทบาทสำนักงานขนส่งจังหวัดให้เป็นเพียงผู้กำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัย (Safety Standard) และคุณภาพการให้บริการเท่านั้น
2. ปฏิรูปเส้นทางและรูปแบบการเดินรถใน 15 หัวเมือง
• ออกแบบและวางแผนเส้นทางเดินรถใหม่ทั้งหมดใน 15 หัวเมืองหลัก ให้สอดคล้องกับจุดยุทธศาสตร์ เช่น โรงพยาบาล สถานศึกษา และย่านพาณิชย์
• นำแนวคิด การเชื่อมต่อระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง (First Mile / Last Mile) มาใช้เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงระบบขนส่งได้สะดวกที่สุด
• หากอปท. ใดที่มีความพร้อม กระทรวงคมนาคมจะเข้าไปช่วยยกระดับการให้บริการขนส่งสาธารณะอย่างเต็มที่ เพื่อลดการใช้รถส่วนบุคคล
3. จัดตั้งงบประมาณอุดหนุนการเดินรถท้องถิ่น
• รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณให้ อปท. เพื่อนำไปสนับสนุนผู้ประกอบการหรือวิสาหกิจชุมชน และชดเชยการขาดทุนในเส้นทางที่จำเป็นต่อคุณภาพชีวิตประชาชน (นำร่องใน 15 หัวเมือง)
• ส่งเสริมการใช้รถโดยสารที่ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลัก การออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design)
4. ท้องถิ่นบริหารจัดการด้วยตนเองอย่างเบ็ดเสร็จ
• อปท. สามารถบริหารจัดการระบบรถโดยสารประจำทางในพื้นที่ได้เอง ทำให้การปรับเปลี่ยนเส้นทางมีความคล่องตัวสูงตามการขยายตัวของเมือง สามารถครอบคลุมสถานที่สำคัญ เช่น มหาวิทยาลัย โรงเรียน โรงพยาบาล วัด สถานที่ราชการ ตลาด ย่านพาณิชย์ ย่านชุมชน สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง
• ส่งเสริมการใช้รถโดยสารที่ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลัก การออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design)