สร้างหัวเมืองใหม่ 15 เมือง ด้วยการเปลี่ยนวิธีจัดงบลงทุน

ยกเลิกโครงการซ้ำซ้อน นำกระจายงบลงทุนสร้างระบบคมนาคมใน 15 หัวเมืองภูมิภาค เพื่อหยุดการผูกขาดความเจริญไว้เพียงแค่ที่กรุงเทพฯ

สร้างหัวเมืองใหม่ 15 เมือง ด้วยการเปลี่ยนวิธีจัดงบลงทุน

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

ประเทศไทยติดหล่มการพัฒนาที่เน้นการ "ขายฝัน" ด้วย โครงการขนาดใหญ่ (Mega Project) ที่เกินจริงและขาดการคำนึงถึงทรัพยากรที่มีจำกัด ส่งผลให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้างดังนี้:

ความเจริญกระจุกตัว: โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้ "กรุงเทพฯ คือประเทศไทย" ขณะที่จังหวัดอื่นขาดงบประมาณในการสร้าง หัวเมือง (Regional Hub) เพื่อดึงดูดประชากรให้กระจายออกจากส่วนกลาง

รัฐราชการรวมศูนย์: ส่วนกลางมีอำนาจตัดสินใจเหนือท้องถิ่น นำไปสู่การสร้าง "เส้นเลือดใหญ่" ระหว่างเมืองที่ซ้ำซ้อนกันเอง (เช่น มีทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองในเส้นทางเดียวกัน) เพื่อแย่งลูกค้ากลุ่มเดียวกัน

การลงทุนที่ไม่คุ้มค่า: หลายโครงการเน้นขนาดใหญ่เกินความจำเป็นแต่ใช้งานจริงไม่คุ้มค่า ทำให้ไม่เหลืองบประมาณไปขยายโครงข่ายเส้นเลือดฝอยหรือพัฒนาขนส่งสาธารณะในตัวเมืองภูมิภาค

 

พรรคประชาชนจะทำอะไร (WHAT)

เราจะปรับยุทธศาสตร์การลงทุนใหม่จาก “เฉพาะหัวเมืองใหญ่" เป็น "สร้างเมืองให้เป็นหัวเมือง" โดยมีเป้าหมายดังนี้:

1. ลดโครงการที่ซ้ำซ้อน: กลั่นกรองแผนงานที่มีมูลค่ารวมกว่า 12 ล้านล้านบาท (ซึ่งสร้างจริงไม่ได้ทั้งหมด) เพื่อชะลอหรือยกเลิกโครงการที่ไม่คุ้มค่า

2. จัดลำดับความสำคัญใหม่: ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง โดยรัฐบาลก่อน ๆ สร้างภาระผูกพันไปแล้วประมาณ 2 ล้านล้านบาท เหลือพื้นที่งบประมาณให้เลือกสร้างเพิ่มได้ประมาณ 2 ล้านล้านบาท ในอีก 8 ปีข้างหน้า ภายใต้งบประมาณที่เหลือ เราจะเลือกโครงการที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการกระจายความเจริญและเชื่อมโยงเมืองรองได้จริง

3. สร้างหัวเมืองใหม่ 15 เมืองทั่วประเทศ: นำเงินที่ประหยัดได้ไปพัฒนาเส้นทางที่ยังเข้าไม่ถึงและเร่งพัฒนาขนส่งสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานใน 15 หัวเมืองหลัก และเชื่อมโยงไปยังเมืองรองโดยรอบ

*15 หัวเมืองเบื้องต้น ได้แก่: เชียงราย, เชียงใหม่, พิษณุโลก, นครสวรรค์, พระนครศรีอยุธยา, พัทยา, ระยอง/มาบตาพุด, นครราชสีมา, อุดรธานี, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, หัวหิน, สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต และหาดใหญ่

 

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

1. วางแผนแม่บทระดับชาติ (Master Planning)

• จัดตั้ง แผนแม่บทการคมนาคมแห่งชาติ (National Transportation Master Plan) เป็นแผนหลักระดับประเทศเพื่อเชื่อมโยงหัวเมืองเข้าด้วยกัน

• จัดทำ แผนบูรณาการการพัฒนาเมืองและระบบคมนาคม สำหรับ 15 หัวเมือง เพื่อพัฒนาขนส่งสาธารณะภายในเมืองและขยายการเชื่อมต่อไปยังเมืองรอง

2. ทบทวนความซ้ำซ้อนภายใน 100 วัน

• กลั่นกรองโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และจัดทำบัญชีโครงการที่จะ “ชะลอ/ปรับขนาด/ยกเลิก” และโครงการในหัวเมืองที่จะ “เร่งให้เร็วขึ้น” ภายในกรอบงบประมาณที่เป็นไปได้

• ทบทวนความซ้ำซ้อน รถไฟความเร็วสูง (High-Speed Rail) และ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) 

• มุ่งเน้นการลงทุนใน รถไฟทางคู่แบบมิเตอร์เกจ (Meter Gauge) เพราะสามารถขนส่งได้ทั้งผู้โดยสารและสินค้าและช่วยเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางจากถนนสู่รางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขยายโครงข่ายรถไฟทางคู่ให้กระจายไปยังจังหวัดที่ยังไม่มีระบบราง

3. เร่งรัดการเดินรถและเพิ่มการมีส่วนร่วม

• เร่งจัดหาหัวรถจักรและขบวนรถใหม่เพื่อทดแทนของเดิมที่หมดสภาพ

• ประยุกต์ใช้ พระราชบัญญัติการขนส่งทางราง (Railway Act) เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการ เพื่อความรวดเร็วและทั่วถึง

4. ปั้น 15 หัวเมือง กระจายความเจริญ

• คัดเลือก 15 หัวเมืองภูมิภาค (เช่น เชียงใหม่, ขอนแก่น, ภูเก็ต ฯลฯ) เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจเสมือน "กรุงเทพฯ อีก 15 แห่ง"

• ปรับงบประมาณจากโครงการระหว่างเมืองที่เกินความจำเป็น มาลงทุนในระบบขนส่งมวลชนภายในหัวเมืองเหล่านี้แทน