ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)
แม้ประเทศไทยจะประสบความสำเร็จในการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (ครอบคลุมร้อยละ 99.73 ในปี พ.ศ. 2567) แต่รายงานจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ชี้ให้เห็นว่า "ความเหลื่อมล้ำในคุณภาพบริการ" ยังคงเป็นวิกฤตที่ซ่อนอยู่:
• การกระจุกตัวของทรัพยากร: แพทย์และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยกระจุกตัวอยู่อย่างหนาแน่นเฉพาะในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ (เช่น ภูเก็ต, เชียงใหม่, ขอนแก่น) ในขณะที่ภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขาดแคลนอย่างหนัก
• วิกฤตขาดแคลนเครื่องมือวินิจฉัย: เครื่องมือสำคัญอย่าง เครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสัดส่วนเพียง 1 เครื่องต่อประชากร 514,600 คน ทำให้ผู้ป่วยขาดโอกาสในการวินิจฉัยโรคซับซ้อน (เช่น มะเร็ง, โรคหัวใจ) ได้ทันเวลา
• ภาระสองทาง: ประชาชนในชนบทต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าเมืองเพื่อรักษา ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ในต่างจังหวัดต้องทำงานเกินกำลัง (Burnout) เนื่องจากภาระงานล้นมือและขาดเครื่องมือช่วยทุ่นแรง
พรรคประชาชนจะทำอะไร (WHAT)
เราจะจัดสรรงบประมาณ 30,000 ล้านบาท ภายใน 4 ปี เพื่อ "เติมเครื่องมือให้เต็มโรงพยาบาล" และ "ใช้เทคโนโลยีลดภาระหมอ" โดยมีเป้าหมายหลักดังนี้:
1. ลดช่องว่างเครื่องมือแพทย์: ลงทุนจัดซื้อเครื่องมือวินิจฉัยและรักษาที่จำเป็น (Essential Medical Equipment) ให้กระจายสู่โรงพยาบาลระดับต่าง ๆ ทั่วประเทศอย่างทั่วถึง
2. ใช้เทคโนโลยีช่วยบุคลากร: ลงทุนในระบบ การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และ ระบบสุขภาพดิจิทัล (Digital Health) เพื่อแบ่งเบาภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
3. สร้างอุตสาหกรรมแพทย์ไทย: ใช้งบประมาณก้อนนี้เป็นกลไกกระตุ้นการผลิตเครื่องมือแพทย์โดยผู้ประกอบการไทย เพื่อสร้างความมั่นคงทางสาธารณสุขและเศรษฐกิจ
ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)
1. จัดทำมาตรฐานและการจัดสรรงบประมาณ
• กำหนดรายการอุปกรณ์พื้นฐาน: จัดทำรายการอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีในโรงพยาบาลทุกระดับ
• การจัดสรรงบประมาณ 2 รูปแบบ:
- กลุ่มพร้อมใช้: โรงพยาบาลที่มีบุคลากรพร้อมแต่ขาดอุปกรณ์ สามารถเบิกงบจัดซื้อได้ทันที
- กลุ่มต้องพัฒนา: โรงพยาบาลที่ขาดทั้งของและคน จะได้รับงบประมาณแบบมีเงื่อนไข ควบคู่กับการสนับสนุนการฝึกอบรมบุคลากร (Upskilling) หรือการจัดทีมแพทย์หมุนเวียนจากส่วนกลาง
2. ลงทุนเทคโนโลยีลดภาระงาน
• ลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยลดงานเอกสารและงานวินิจฉัยเบื้องต้น เช่น ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ (Medical AI) และระบบ Telemedicine เพื่อให้บุคลากรมีเวลาโฟกัสกับการรักษาผู้ป่วยมากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3. สร้างเศรษฐกิจจากความมั่นคงทางยาและเครื่องมือแพทย์
• ร่วมมือกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยผลิตนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ตอบโจทย์โรงพยาบาลในประเทศ
• ใช้กลไกการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อสร้างตลาดให้กับสินค้าเครื่องมือแพทย์ของไทย (Made in Thailand) ลดการนำเข้าและสร้างงานในประเทศ
