พ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ คืนอำนาจสู่โรงเรียน คืนเวลาให้ครู คืนความสุขให้ผู้เรียน

ระบบการศึกษาไทยกำลังเผชิญวิกฤตเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึก การผลักดัน พ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ แม้ไม่อาจแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ แต่เป็นกระดุมเม็ดแรกที่สำคัญ

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

  1. โครงสร้างแบบรวมศูนย์: อำนาจการตัดสินใจถูกยึดไว้ที่ส่วนกลาง ทำให้คำสั่งและโครงการต่างๆ กลายเป็นภาระของครูและโรงเรียน แทนที่จะเป็นการสนับสนุนการเรียนรู้

  2. สิทธิและสวัสดิการที่ไม่เพียงพอ: แม้จะมีนโยบายเรียนฟรี แต่ผู้ปกครองยังแบกรับค่าใช้จ่ายแฝงมหาศาล ขณะที่นักเรียนเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยและหลักสูตรที่ไม่เท่าทันโลก

  3. ภาวะครูแบกภาระงาน: ครูต้องดึงเวลาจากการสอนไปทำหน้าที่ธุรการ การเงิน และพัสดุ รวมถึงต้องคอยตอบสนองตัวชี้วัดจากหน่วยงานภายนอกที่ไม่ได้ช่วยให้เด็กเก่งขึ้นจริง

พรรคประชาชนจะทำอะไร (WHAT)

เราเสนอ "พ.ร.บ. การศึกษาฉบับใหม่" ที่มุ่งรับรองสิทธิ สวัสดิการ และกระจายอำนาจให้ทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง (ผู้เรียน ผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษา ท้องถิ่น) มีส่วนร่วมในการออกแบบระบบการศึกษา

  1. รับประกันสิทธิและสวัสดิการผู้เรียน ครอบคลุม-รัดกุม 

    • เรียนฟรีจริงตั้งแต่แรกเกิดจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใช้บริการแหล่งเรียนรู้ของรัฐได้ฟรี 

    • สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น อุปกรณ์การเรียนที่ครบถ้วน หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต รถรับส่ง อุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับผู้เรียนที่มีความจําเป็นเฉพาะ ความต้องการพิเศษ หรือความพิการ 

    • ได้รับการดูแลด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตในโรงเรียนมากขึ้น อาหารถูกหลักโภชนาการ การดูแลสุขภาพจิตทั่วถึง เวลาพักผ่อนที่เพียงพอ 

    • หลักสูตรที่ตอบโจทย์ผู้เรียน ทบทวนทุก 5 ปี ตามการเปลี่ยนแปลงของโลกควบคู่กับการวิจัยผลการใช้กรอบหลักสูตรที่ใช้ข้อมูลจากผลการเรียนรู้ของผู้เรียน 

    • มีส่วนร่วมในการกำหนดกฎระเบียบและกิจกรรมในโรงเรียน ที่ไม่ละเมิดสิทธิผู้เรียน

  2. ครูมีแรงจูงใจในการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ

    • ลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอน รวมถึงภาระงานจากหน่วยงานภายนอก เพื่อให้มีเวลาโฟกัสที่ผู้เรียนมากขึ้น 

    • มีโอกาสเติบโตในวิชาชีพที่เชื่อมโยงกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน 

    • รับประกันค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เป็นธรรม ปลดล็อกการให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสําหรับครูที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนทรัพยากรหรือเผชิญความท้าทายเป็นพิเศษ 

    • ได้รับการสนับสนุนจากบุคลากรเฉพาะด้านอย่างเพียงพอ ตามความต้องการเฉพาะ เช่น นักจิตวิทยา นักการภารโรง นักธุรการ นักการเงิน นักพัสดุ นักโภชนาการ นักเทคโนโลยีการศึกษา 

    • มีส่วนร่วมในการสรรหาและประเมินการทําหน้าที่ของผู้บริหาร 

    • ระบบผลิตครูที่มีทักษะและสาขาที่ตรงความต้องการ มีการพัฒนาสมรรถนะของครูที่อยู่ในระบบอย่างสม่ำเสมอ

  3. สนับสนุนผู้ปกครองในการพัฒนาการเรียนรู้ของลูก

    • เข้าถึงแหล่งเรียนรู้และพัฒนาสมรรถนะ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของลูก

    • เข้าถึงข้อมูล สถิติ สารสนเทศ ที่เป็นประโยชน์ต่อการร่วมวางแผน-ติดตามการเรียนรู้ของลูก

    • เข้าถึงสิทธิประโยชน์จากการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีสําหรับค่าใช้จ่ายการศึกษา

  4. กระจายอำนาจ เพิ่มการมีส่วนร่วมให้ท้องถิ่นและชุมชน

    • ปลดล็อกท้องถิ่นให้สามารถสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรให้กับผู้เรียนหรือสถานศึกษาทุกสังกัดทุกแห่งในท้องถิ่น 

    • มีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการและเอกลักษณ์เชิงพื้นที่ในระดับจังหวัด

  5. ปลดล็อกโรงเรียนให้บริหารอิสระมากขึ้น

    • ออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาของตนเองได้ โดยใช้กรอบหลักสูตรระดับชาติ 

    • ปลดล็อกให้จัดสรรเงินอุดหนุนสถานศึกษาในรูปแบบวงเงินรวม (Block Grant) ให้อิสระในการบริหาร 

    • เปิดให้สถานศึกษามีส่วนร่วมได้มากขึ้น ในการสรรหา บรรจุ บุคลากรของตนเอง 

    • มีอำนาจตัดสินใจหรือปฏิเสธโครงการจากส่วนกลางหรือหน่วยงานอื่นที่เพิ่มภาระงานให้ครูโดยไม่ตอบโจทย์ผู้เรียนในสถานศึกษา 

    • ปลดล็อกให้จัดการศึกษาได้หลายประเภท ทั้งในและนอกระบบโรงเรียน (เช่น บ้านเรียน ศูนย์การเรียน) สําหรับนักเรียนทุกประเภท 

    • คำนึงถึงความเสมอภาคในการอุดหนุนงบประมาณให้สถานศึกษาทุกสังกัดและทุกรูปแบบ

  6. ปฎิรูปกระทรวงศึกษาธิการให้ตอบโจทย์ผู้เรียนและสถานศึกษา

    • กําหนดให้มีการออกกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการฉบับใหม่ภายใน 2 ปี 

      • ระดับส่วนกลาง เน้นบทบาทในการกําหนดมาตรฐานสําหรับสถานศึกษา (regulator) มากกว่าการการดําเนินงานภายในสถานศึกษา (operator)

      • ระดับพื้นที่ เน้นบทบาทเรื่องการอํานวยความสะดวกและสนับสนุนสถานศึกษา (facilitate) มากกว่าเรื่องการสั่งการและบังคับบัญชาสถานศึกษา (command & control)

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

  • ผลักดันร่างกฎหมาย พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ เพื่อเปลี่ยนทิศทางการบริหารการศึกษาจากระบบรวมศูนย์ ให้เน้นตอบโจทย์ผู้เรียน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายอำนาจและทรัพยากรให้ทุกภาคส่วน