ออกแบบหลักสูตรการศึกษาใหม่

หลักสูตรการศึกษาเป็นตัวกำหนดเส้นทางการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งควรปรับเปลี่ยนให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่หลักสูตรการศึกษาไทยกลับชะงักงัน จำเป็นต้องออกแบบใหม่ให้ทันโลก

ออกแบบหลักสูตรการศึกษาใหม่

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

  • ความล้าสมัย: เรายังคงใช้หลักสูตรแกนกลางปี พ.ศ. 2551 เป็นหลัก ซึ่งไม่เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและ AI

  • โครงสร้างที่รวมศูนย์และตายตัว: หลักสูตรส่วนกลางกำหนดรายละเอียดมากเกินไป จนขาดความยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละท้องถิ่น

  • เนื้อหาแยกส่วน ไม่เชื่อมโยง: วิชาต่างๆ ถูกสอนแยกขาดจากกัน ไม่เน้นการบูรณาการความรู้มาใช้ในชีวิตจริง

  • มุ่งเน้นการวัดผล มากกว่าการพัฒนา: การสอบกลายเป็นเป้าหมายหลักแทนที่จะเป็นการเติบโตของผู้เรียน

  • การตีกรอบทางวัฒนธรรม: หลักสูตรมักสะท้อนเพียงวัฒนธรรมกระแสหลัก จนอาจมองข้ามความหลากหลายและความนึกคิดที่แตกต่างในชุมชน

พรรคประชาชนจะทำอะไร (WHAT)

เรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนระบบการศึกษาให้เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างและปลอดภัย เพื่อให้เยาวชน "กล้าฝัน กล้าคิด" หลักสูตรการศึกษาต้องเป็น "หลักสูตรที่มีชีวิต" (Living Curriculum) ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความสนใจและประสบการณ์จริงของผู้เรียน ผ่านนโยบายดังนี้:

  1. สร้างระบบการเรียนรู้แบบยืดหยุ่น: พัฒนา "แพลตฟอร์มการเรียนรู้แห่งชาติ" หรือระบบธนาคารเครดิต (Credit Bank) เพื่อเชื่อมต่อการเรียนรู้จากหลากหลายช่องทาง ไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน

  2. หลักสูตรคือสนามปฏิบัติการ: เน้นการลงมือทำจริงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อตนเองและสังคม

  3. เชื่อมโยงท้องถิ่นและสากล: เปิดโอกาสให้ อบจ. ภาคประชาชน และผู้ประกอบการท้องถิ่น ร่วมออกแบบหลักสูตรที่สอดคล้องกับโอกาสในแต่ละพื้นที่

  4. สร้างห้องเรียนที่มีชีวิต: สนับสนุนให้ผู้เรียนตั้งคำถาม เรียนรู้แบบวิพากษ์ (Critical Thinking) และมีส่วนร่วมในการออกแบบเส้นทางการเรียนของตนเอง

  5. เทคโนโลยีสร้างสรรค์เพื่อผู้เรียน: นำ AI Tutor และ Skill Portfolio มาใช้เพื่อเปิดโลกการเรียนรู้และติดตามความก้าวหน้าตามความถนัดเฉพาะบุคคล

 

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เราจะดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

  1. ภายในปีงบประมาณ 2569: จัดตั้งคณะกรรมการและเวทีร่วมออกแบบหลักสูตรการศึกษาใหม่ ที่เน้นให้ผู้เรียน "คิดเป็น ทำได้ สื่อสารดี" ในทุกระดับชั้น เพื่อให้ได้ข้อสรุปอย่างเป็นรูปธรรม

  2. ปี 2570 เปิดตัว แพลตฟอร์มการเรียนรู้แห่งชาติ : เพื่อเป็นฐานข้อมูลและเป็นฐานการเชื่อมต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างคล่องตัว เปิดกว้าง และมีประสิทธิภาพ โดยระดมความรู้ ประสบการณ์ เนื้อหาสร้างสรรค์ ในทุกพื้นที่และทุกระดับ ผ่านแพลตฟอร์มนี้

  3. การเสริมพลังครู: สนับสนุนการเรียนรู้ของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเพิ่มพูนทักษะให้สามารถเปลี่ยนบทบาทของครูจากการเป็น “ผู้ถ่ายทอดความรู้” ไปเป็น “ผู้อำนวยการเรียนรู้” (Facilitator) โดยใช้เทคโนโลยีและสะท้อนผลการเรียนรู้ของผู้เรียน

  4. การวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง

    • จัดตั้ง "สถาบันวิจัยและพัฒนาหลักสูตร" ที่เป็นมืออาชีพ เพื่อติดตาม ประเมินผล ศึกษาวิจัยหลักสูตรใหม่ สามารถยกระดับการวิจัยและพัฒนาหลักสูตรของไทยได้อย่างต่อเนื่อง

    • ใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์จากการศึกษาวิจัยแบบสหวิทยาการ เพื่อให้เห็นมุมมองในการพัฒนาหลักสูตรอย่างครบถ้วน