ปัจจัยสำคัญที่สุดประการหนึ่งในการปลูกพืชให้ได้ผลผลิตสูง (High Yield) และมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด คือการใช้ "พันธุ์ดี" อย่างไรก็ตาม ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกในภาคเกษตรไทยคือ การผลิตเมล็ดพันธุ์และท่อนพันธุ์ของพืชเศรษฐกิจหลายชนิดมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานจริงของเกษตรกร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน "ข้าว" ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก และ "มันสำปะหลัง" ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องโรคระบาด การขาดแคลนท่อนพันธุ์มันสำปะหลังปลอดโรคทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงสูงที่จะได้ผลผลิตต่ำและเกิดการแพร่ระบาดของโรคซ้ำซ้อน ดังนั้น นโยบายนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนปัจจัยการผลิตที่ต้นน้ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงพันธุ์ดีได้ในราคาที่เหมาะสมและทั่วถึง
นโยบายนี้มุ่งเน้นบทบาทของรัฐในการเป็น "ผู้สนับสนุนสภาพคล่อง" และ "ผู้ขยายฐานการผลิต" โดยรัฐบาลจะมีมาตรการเพิ่มงบประมาณในรูปแบบของ "เงินทุนหมุนเวียน" ในการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ให้กับเกษตรกร ขอบเขตของนโยบายจะเริ่มต้นนำร่องและเน้นหนักในพืชเศรษฐกิจ 2 ชนิดที่มีความสำคัญเร่งด่วน ได้แก่:
ข้าว: มุ่งเน้นการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้เพียงพอ
มันสำปะหลัง: มุ่งเน้นการผลิตท่อนพันธุ์มันสำปะหลังที่ "ปลอดโรค" และต้านทานต่อโรคใบด่างเพื่อตัดวงจรโรคระบาดและเพิ่มผลผลิตต่อไร่
กลไกการขับเคลื่อนนโยบายเน้นการ "เสริมพลัง" (Empowerment) ให้กับกลไกที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ โดยจะดำเนินการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนหน่วยงานและองค์กรเกษตรกรที่มีศักยภาพในการผลิตเมล็ดพันธุ์และท่อนพันธุ์คุณภาพ ได้แก่
กองทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตและขยายพันธุ์พืช
กลุ่มเกษตรกร (Farmer Groups)
ศูนย์ข้าวชุมชน (Community Rice Centers)
สถาบันการศึกษา (Educational Institutions) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตร
ยุทธศาสตร์สำคัญคือการใช้กลไกเดิมแต่ "เพิ่มปริมาณเงินทุนหมุนเวียน" และ "ขยายพื้นที่ปลูก/การผลิตเมล็ดพันธุ์" ให้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร
เพื่อให้การดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ ขั้นตอนการดำเนินงานควรประกอบด้วย:
การจัดสรรและเพิ่มทุน: รัฐบาลอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเข้าสู่ระบบกองทุนหมุนเวียนเพื่อผลิตและขยายพันธุ์พืช โดยมุ่งเป้าไปที่การสนับสนุนงบประมาณระยะยาว (เช่น โครงการ 3 ปี) เพื่อให้กลุ่มผู้ผลิตสามารถวางแผนการผลิตได้ต่อเนื่อง
การขยายฐานการผลิต: สนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกร ศูนย์ข้าวชุมชนและสถาบันการศึกษา ขยายพื้นที่แปลงผลิตเมล็ดพันธุ์และท่อนพันธุ์ โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนในการบริหารจัดการปัจจัยการผลิตและเทคโนโลยี
การกระจายพันธุ์: เชื่อมโยงผลผลิตจากศูนย์ผลิตต่างๆ ไปสู่มือเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม ผ่านเครือข่ายสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่
นโยบายนี้กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จเชิงปริมาณไว้อย่างชัดเจนภายในกรอบระยะเวลา 2 ปี ดังนี้:
เมล็ดพันธุ์ข้าว: เพิ่มปริมาณการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ได้เพิ่มขึ้นอีก 200,000 ตัน โดยมีเป้าหมายระยะยาวคือการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีให้ได้ในสัดส่วน 20% ของความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวในประเทศ (1.4 ล้านตัน)
ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง: สนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่ระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังจำนวน 1,100,000 ไร่ เข้าถึงท่อนพันธุ์ต้านทานและพันธุ์ทนทาน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ภาครัฐได้วางกรอบงบประมาณสำหรับการสนับสนุนแยกตามประเภทพืช ดังนี้:
เมล็ดพันธุ์ข้าว: กำหนดงบประมาณสนับสนุนกองทุนหมุนเวียนผลิตและขยายพันธุ์ข้าว ในปี 2570 จำนวน 1,000 ล้านบาท และให้ใช้งบประมาณก้อนนี้หมุนเวียนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวอย่างต่อเนื่อง
ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง: กำหนดงบประมาณสนับสนุนในลักษณะต้นทุนต่อหน่วยพื้นที่ (800 บาท/ไร่) โดยในปี 2570 มีเป้าหมายพื้นที่ 1,100,000 ไร่ คิดเป็นงบประมาณรวม 1,100,000 ไร่ x 800 บาท = ประมาณ 880 ล้านบาท หลังจากปี 2570 จะเกิดการซื้อขายท่อนพันธุ์คุณภาพดีผ่านกลไกตลา