ในปัจจุบัน ภาคปศุสัตว์ของไทยเผชิญกับความท้าทายจากโรคระบาดสัตว์อุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ (อาทิ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร - ASF, โรคปากและเท้าเปื่อย - FMD) รัฐบาลและผู้ปกระกอบการรายใหญ่ในห่วงโซ่อุปทานมีแนวโน้มกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยทาวชีวภาพเข้มงวดขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์รายย่อยถูกกดดันให้ยกระดับมาตรฐานคุณภาพฟาร์มให้ได้คุณภาพ ทำให้เกษตรรรายย่อยมีต้นทุนการพัฒนาระบบความปลอดภัยทางชีวภาพสูงขึ้น อาจสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันและไม่สามารถปรับตัวได้ จนสูญสิ้นอาชีพไปในที่สุด
นโยบายนี้มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยให้สามารถปรับตัวได้ ดังนี้:
เพื่อลดความเสี่ยงและวงจรการระบาดของโรค: การป้องกันโรคเข้าสู่ฟาร์ม (Prevention) มีต้นทุนต่ำกว่าการทำลายสัตว์และการเยียวยา (Control and Compensation) การยกระดับความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์มรายย่อยจะช่วยตัดวงจรการแพร่เชื้อในระดับชุมชน ไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง
เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่ GFM/GAP: ผลักดันให้เกษตรกรรายย่อยเข้าสู่มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) หรืออย่างน้อยที่สุดคือ มาตรฐานฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) เพื่อให้สามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับของตลาด
เพื่อความยั่งยืนของอาชีพเกษตรกรรายย่อย: สร้างความมั่นใจในการประกอบอาชีพ ลดโอกาสการขาดทุนจากการตายของสัตว์ และลดการใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็นซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพระดับโลก
นโยบายนี้มุ่งเน้นการสนับสนุนงบประมาณควบคู่กับองค์ความรู้ โดยการสนับสนุนความรู้ด้านมาตรฐานฟาร์มและงบประมาณสำหรับการตรวจรับรองมาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพฟาร์มปศุสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย
โดยเราเสนอให้มีนโยบายสนับสนุน
กระบวนการดำเนินงานแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้:
การคัดกรองและประเมินความเสี่ยง เปิดรับสมัครเกษตรกรรายย่อย (เป้าหมาย: ผู้เลี้ยงสุกร,โคเนื้อ รายย่อย) เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประเมินคะแนนความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity Score) ปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ตั้งต้น (Baseline)
การอบรมเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพ "5 หัวใจความปลอดภัย" (แยกโซน, กั้นรั้ว, ล้างคอก, กรองคนเข้า, เฝ้าระวังโรค)
การตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน ตรวจสอบประเมินผลและออกใบรับรอง GFM (Good Farming Management) ให้แก่ฟาร์มที่ผ่านเกณฑ์
ตั้งเป้าหมาย: เกษตรกรรายย่อย ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพปีละ 100,000 ราย รวม 200,000 ราย
สำหรับงบประมาณในการตรวจรับรองมาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพแก่เกษตรกรรายย่อยจำนวน 100,000 ราย รายละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 500 ล้านบาท ต่อปี ดำเนินการ 2 ปี ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท