แม้ในปี 2567 สภาผู้แทนราษฎรจะมีมติเห็นชอบ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม แต่ในทางปฏิบัติ คู่สมรสผู้มีความหลากหลายทางเพศยังคงเผชิญกับข้อจำกัดทางกฎหมายในมิติอื่น เนื่องจากมีกฎหมายสำคัญอย่างน้อย 3 ฉบับที่ยังไม่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกันภายในกรอบเวลา 180 วันตามแผนงาน ดังนี้:
ประมวลรัษฎากร: กฎหมายภาษีที่ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2475 ยังคงใช้บทบัญญัติที่อิงกับบทบาท "สามีและภรรยา" ตามบริบทสังคมในอดีต ตัวอย่างเช่น การกำหนดให้เงินได้จากบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเป็นเงินได้ของ "บิดา" ซึ่งสร้างความสับสนในการตีความสำหรับคู่สมรสเพศเดียวกันที่ไม่สามารถระบุฐานะเป็นบิดาตามนิยามเดิมได้
พ.ร.บ.สัญชาติ: ปัจจุบันมีความลักลั่นด้านสิทธิระหว่างเพศ โดยหญิงต่างชาติที่สมรสกับชายไทยสามารถขอสัญชาติได้ง่ายกว่าชายต่างชาติที่สมรสกับหญิงไทย เมื่อมีการสมรสเท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำนี้จึงส่งผลกระทบต่อการตีความสิทธิในการขอสัญชาติของคู่สมรสเพศเดียวกัน
พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือ "กฎหมายอุ้มบุญ": กฎหมายฉบับนี้ยังจำกัดสิทธิเฉพาะ "สามีและภรรยา" ทำให้คู่สมรสเพศเดียวกันไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อการสร้างครอบครัวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ระบบคำนำหน้านาม ในปัจจุบันที่ผูกติดกับเพศกำเนิดและสถานะสมรส ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่นำไปสู่การเลือกปฏิบัติโดยไม่จำเป็น ขัดต่อหลักความเสมอภาคและการเคารพอัตลักษณ์ส่วนบุคคล
พรรคประชาชนเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายแม่บททั้ง 3 ฉบับ ได้แก่ ประมวลรัษฎากร, พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508, และ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 รวมถึงกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สิทธิและหน้าที่ของคู่สมรสทุกเพศมีความเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งผลักดัน กฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติ เพื่อจัดตั้งองค์กรกลางที่มีอำนาจวินิจฉัยและตีความการเลือกปฏิบัติได้อย่างชัดเจน
1. การปรับปรุงบทบัญญัติภาษีและสัญชาติ
แก้ไข ประมวลรัษฎากร โดยเปลี่ยนนิยามจาก "สามีภรรยา" เป็น "คู่สมรส" และปรับบทบาท "บิดา-มารดา" ให้สอดคล้องกับคู่สมรสโดยไม่แบ่งแยกเพศ
แก้ไข พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2508 เพื่อให้คู่สมรสทุกเพศมีสิทธิในการขอถือสัญชาติตามคู่สมรสไทยภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกัน ขจัดความเหลื่อมล้ำระหว่างชายและหญิง
2. การยกระดับสิทธิในครอบครัวและการคุ้มครองบุคคล
แก้ไข กฎหมายอุ้มบุญ (พ.ศ. 2558) โดยขยายสิทธิให้คู่สมรสเพศเดียวกันสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ได้ โดยจะมีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้หญิงที่รับตั้งครรภ์และทารกที่เกิดมา
เปิดให้มีการ เปลี่ยนคำนำหน้านามตามความสมัครใจ เพื่อเป็นกลไกในการลดการเลือกปฏิบัติ และเป็นการเคารพอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคล
3. การสร้างกลไกตรวจสอบและกำกับดูแล
ผลักดันการบังคับใช้กฎหมายที่ว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติ เพื่อให้มีองค์กรที่ทำหน้าที่วินิจฉัยและวางบรรทัดฐานว่าการกระทำใดเข้าข่ายการเลือกปฏิบัติในสังคมไทย