ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสิ่งจำเป็น: ครอบครัวที่ขาดแคลนรายได้ มักไม่มีเงินซื้อของใช้ที่จำเป็นต่อการส่งเสริมพัฒนาการและสุขอนามัย การขาดแคลนสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่แรกเริ่ม สร้างความเหลื่อมล้ำที่ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กไปตลอดชีวิต เช่น:
อุปกรณ์ที่ช่วยให้พ่อแม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: ขวดนม, อุปกรณ์ลดการติดเชื้อ, อุปกรณ์ทำความสะอาดหรือเตียงนอนที่ได้มาตรฐาน
ความช่วยเหลือทางการเงินไม่เพียงพอ: แม้ประเทศไทยจะมีเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด แต่ความช่วยเหลือนี้ ยังไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายจริงในขวบแรกของเด็กประมาณ 5,956 บาทต่อเดือน (ข้อมูลปี 2562) โดยผู้ปกครองต้องรับผิดชอบเองประมาณ 2,938 บาท
ขาดการรับประกันมาตรฐานขั้นต่ำของสิ่งจำเป็น (In-kind Support) เพื่อให้พ่อแม่มือใหม่สามารถเริ่มต้นการเลี้ยงดูลูกบนฐานคุณภาพที่เท่าเทียมกันตั้งแต่วันแรก
เสนอให้มี เครดิตเงินของขวัญแรกเกิด 3,000 บาท แก่เด็กแรกเกิดทุกคน พ่อแม่สามารถใช้เครดิตดังกล่าว เพื่อซื้อสินค้าสำหรับพัฒนาการและดูแลสุขภาพเด็กได้บนแพลตฟอร์มที่คัดสรรสินค้าที่ได้คุณภาพและตรงตามวัตถุประสงค์ ซึ่งจะตอบโจทย์เรื่องความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายโดยยังคงควบคุมคุณภาพของสินค้าได้ (กรอบงบประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี)
1. สร้างแพลตฟอร์มสินค้าแม่และเด็กและกำหนดมาตรฐาน:
2. สร้างระบบข้อมูลและติดตามผล: สร้างระบบ Data Analytics เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการใช้จ่ายของผู้ปกครอง และเชื่อมโยงกับข้อมูลพัฒนาการเด็กจนถึงอายุ 6 ปีเป็นอย่างน้อย
3. เชื่อมโยงเข้ากับระบบบริการสุขภาพ: ประชาสัมพันธ์การเข้ารับสิทธิผ่านโรงพยาบาล รพ.สต. และโรงเรียนพ่อแม่