พรรคประชาชนเสนอให้เปลี่ยนเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินทั้งหมด (ที่ไม่ทับซ้อนที่ดินรัฐและอยู่ในเงื่อนไขที่เหมาะสม) ให้เป็น "โฉนดที่ดิน" ตามประมวลกฎหมายที่ดินเพียงมาตรฐานเดียว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและคืนมูลค่าให้ที่ดินประชาชน ผ่าน 4 แนวทางหลัก:
1. เร่งรัดออกโฉนดจากเอกสารสิทธิเดิม
- กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ถือครอง น.ส.3, น.ส.3 ก., น.ส.2, ส.ค.1 และที่ดินในโครงการ "บอกดิน"
- การดำเนินการ:
- ปฏิรูประบบเดินสำรวจ โดยกระจายอำนาจให้ สำนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา เป็นผู้ดำเนินการหลัก แทนศูนย์เดินสำรวจส่วนกลาง
- จัดสรรงบประมาณตามปริมาณงานจริงในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาคอขวดของการออกโฉนดที่ล่าช้า
2. เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด
- การแก้ไขกฎหมาย:
- แก้ไข ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 3 ให้รับรองกรรมสิทธิ์ที่ได้มาจากการปฏิรูปที่ดิน
- แก้ไข พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (เพิ่มมาตรา 39/1) ให้ผู้ได้รับจัดสรรที่ดินและทำประโยชน์ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี สามารถขอออกโฉนดที่ดินได้
- เป้าหมาย: ปลดล็อกที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจทัดเทียมที่ดินทั่วไป
3. ยกระดับที่ดินนิคมสร้างตนเองและนิคมสหกรณ์
- กลุ่มที่ยังไม่จัดที่ดิน: ใช้คำสั่งฝ่ายบริหารเร่งรัดรังวัดและตรวจสอบคุณสมบัติ
- กลุ่มติดล็อกข้อกฎหมาย (น.ค.1 / น.ค.3): แก้ไขกฎหมายเพื่อปลดล็อกเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรค เช่น กรณีเปลี่ยนมือสู่ทายาทที่ไม่ได้ทำเกษตรกรรม ให้สามารถออกเอกสารสิทธิ์ น.ค.3 และนำไปสู่การออกโฉนดได้ทันที
- กลุ่ม "13 นิคม 14 ป่า": ออกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเขตนิคมสหกรณ์ให้ครบถ้วนตามมติ ครม. เดิม (ปี 2513 และ 2517) เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการออกโฉนดตามลำดับ
4. เร่งรัดพิสูจน์สิทธิในที่ดินทับซ้อน
- สำหรับที่ดินที่มีการครอบครองก่อนประกาศเป็นที่ดินรัฐ แต่ติดปัญหาทับซ้อน จะเร่งรัดกระบวนการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)
- แก้ปัญหาความล่าช้าโดยเพิ่มความถี่การประชุมคณะอนุกรรมการจังหวัด (คพร.จว.) และกระจายอำนาจการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ ไม่ให้กระจุกตัวอยู่ส่วนกลาง