ในเขตเมืองที่หนาแน่น ต้นตอหลักของฝุ่นพิษมาจาก ยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาป ที่ปล่อยไอเสียโดยตรงสู่ทางเดินหายใจของประชาชน ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากระบบบริหารจัดการที่ขาดข้อมูลเชิงลึก และโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่สามารถดึงคนออกจากรถส่วนบุคคลได้จริง
1. ขาดข้อมูลเชิงพื้นที่: รัฐไม่มีฐานข้อมูลที่ระบุได้ว่าในแต่ละเขตเมืองมีรถประเภทใด อายุเท่าไหร่ และปล่อยมลพิษเท่าใด ทำให้การออกมาตรการควบคุมเป็นแบบ "เหมาเข่ง" ทั้งประเทศ ไม่ตอบโจทย์ความวิกฤตที่ต่างกันในแต่ละถนน
2. รถยนต์เก่าสะสม: แม้จะเริ่มใช้มาตรฐาน EURO 5 และ EURO 6 ในรถใหม่ แต่รถเก่าที่ปล่อยมลพิษสูงยังคงใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะไทยยังไม่มีกฎหมายกำหนดอายุการใช้งานรถยนต์และระบบจัดการรถสิ้นสภาพที่ชัดเจน
3. ขนส่งสาธารณะยังไม่ตอบโจทย์: การเชื่อมโยง ล้อ-ราง-เรือ ยังมีรอยต่อ ทั้งเรื่องความสะดวกและราคา ทำให้ประชาชนยังจำเป็นต้องใช้รถส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์
พรรคประชาชนมุ่งปฏิรูประบบคมนาคมโดยใช้ "ข้อมูลจริง" เป็นตัวขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อจำกัดมลพิษจากต้นทางและสร้างทางเลือกในการเดินทาง ดังนี้
• สร้างฐานข้อมูลมลพิษรายคัน: เชื่อมโยงข้อมูลยานพาหนะกับศักยภาพการรองรับของพื้นที่
• ประกาศพื้นที่มลพิษต่ำ (Low Emission Zone): กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจัดการเขตควบคุมฝุ่นตามระดับความวิกฤต
• เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ EV อย่างเป็นระบบ: กำหนดอายุใช้งานรถยนต์ควบคู่กับการจัดการรถสิ้นสภาพ
• เชื่อมโยงขนส่งสาธารณะไร้รอยต่อ: พัฒนาระบบตั๋วร่วมเพื่อลดการใช้รถส่วนบุคคล
พรรคประชาชนจะขับเคลื่อนการปฏิรูปผ่านแผนงานที่ชัดเจน เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนเมือง
1. ปฏิรูปฐานข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการเชิงพื้นที่
พัฒนาระบบฐานข้อมูล: พัฒนาฐานข้อมูลยานพาหนะระดับประเทศ (Digital Vehicle Database) ที่ระบุอัตราการระบายสารมลพิษจริง เพื่อรองรับ ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด
Green List เชิงพื้นที่: ประเมินศักยภาพการรองรับมลพิษในแต่ละเขตเมือง และจัดทำรายชื่อยานพาหนะที่เหมาะสม (Green List) เพื่อกำหนดมาตรการจูงใจหรือจำกัดการเข้าพื้นที่
2. มาตรฐานไอเสียและการจัดการรถสิ้นสภาพ
บังคับใช้มาตรฐาน EURO 5/6 อย่างเข้มงวด: ครอบคลุมทั้งรถยนต์ใหม่ รถที่ใช้งานอยู่ รวมถึงยานพาหนะทางน้ำและทางราง
หลักประกันการเปลี่ยนผ่านสู่ EV: กำหนดนโยบายสนับสนุนการเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า ควบคู่กับ มาตรการจัดการยานพาหนะสิ้นสภาพ (End-of-Life Vehicle) เพื่อคัดกรองรถเก่าที่ปล่อยมลพิษสูงออกจากระบบอย่างเป็นธรรม
3. จัดการพื้นที่มลพิษต่ำ (Low Emission Zone - LEZ)
กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น: ให้อำนาจท้องถิ่นประกาศเขต Low Emission Zone ในพื้นที่วิกฤต โดยสามารถกำหนดเกณฑ์จำกัดรถมลพิษสูงเข้าพื้นที่ในช่วงเวลาที่ฝุ่นหนาแน่น ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานที่รัฐบาลกำหนด
4. ระบบขนส่งสาธารณะเพื่อมวลชน
ตั๋วร่วมไร้รอยต่อ (Common Ticketing): พัฒนาระบบตั๋วเดียวที่ใช้ได้ทั้ง เรือ รถไฟ และรถเมล์ เพื่อความสะดวกและลดต้นทุนการเดินทางของประชาชน
5. ประเมินผลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ประเมินผลการดำเนินการและการใช้งบประมาณด้านการจัดการมลพิษจากภาคคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงของแต่ละพื้นที่