สร้างระบบดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว (Long Term Care)

สร้างระบบดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว (Long Term Care)

ทำไมต้องสร้างระบบการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว? (WHY)

  1. โครงสร้างครอบครัวไทยไม่รองรับ: ระบบ LTC ในปัจจุบันยังยึดติดกับการมีครอบครัวเป็นผู้ดูแลหลัก ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่ครอบครัวมีขนาดเล็กลง และผู้สูงอายุจำนวนมากต้องดูแลตัวเองหรือพึ่งพิงคนเพียงคนเดียว

  2. บริการไม่ครอบคลุมและต่ำกว่ามาตรฐาน: แม้จะมีผู้สูงอายุภาวะพึ่งพิงหลายแสนคนได้รับการดูแล แต่บริการที่เข้าถึงได้จริงยัง ต่ำกว่ามาตรฐาน ทั้งในด้านจำนวนครั้งและระยะเวลาที่ควรได้รับการดูแล ขณะที่บริการเฉพาะทางที่จำเป็น (เช่น การทำแผล การสวนปัสสาวะ) ยังขาดแคลน

  3. ปัญหาด้านงบประมาณและผู้ดูแล:

    • งบประมาณไม่เพียงพอ: งบ LTC ที่จัดสรรเป็นรายหัวปัจจุบัน ตกเดือนละไม่ถึงหนึ่งพันบาท ต่อผู้ป่วย ทำให้ต้องเฉลี่ยจ่ายระหว่างค่าจ้างผู้ดูแลอาสาสมัคร (CG) และค่าวัสดุทางการแพทย์ ส่งผลให้บริการไม่ทั่วถึง

    • ผู้ดูแลขาดแรงจูงใจ: ผู้ดูแลอาสาสมัครได้รับค่าตอบแทนต่ำและไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้เต็มประสิทธิภาพ 

  4. ไม่มีฐานข้อมูลกลางและเจ้าภาพที่ชัดเจน ในการจัดการอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยพึ่งพิง (เช่น เตียงลม เครื่องช่วยหายใจ) ทำให้ประชาชนไม่รู้ช่องทางการขอ และท้องถิ่นไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พรรคประชาชนจะทำอะไร? (WHAT)

จากปัญหาที่กล่าวมา พรรคประชาชนมีข้อเสนอในการสร้างระบบ LTC ดังนี้ 

1.  เพิ่มระบบสวัสดิการผู้พึ่งพิงระยะยาวที่มีความยืดหยุ่น: ให้ผู้ป่วยภาวะพึ่งพิงสามารถ ตัดสินใจเลือกรูปแบบบริการได้เอง โดยมีรูปแบบบริการให้เลือก

  • บริการที่บ้าน (Home Care): เช่น 16 ชั่วโมง/สัปดาห์ (แบ่งใช้ 2-3 ชม./วัน หรือ 8 ชม./วัน จำนวน 2 วัน/สัปดาห์)
  • บริการที่ศูนย์ (Daycare center): เข้ารับบริการที่ศูนย์ Daycare ที่ อปท., ชุมชน หรือเอกชนจัดตั้ง
  • สถานดูแลระยะยาว (Residential Care): เข้ารับบริการประจำที่สถานดูแลผู้พึ่งพิงระยะยาว
  • เงินสนับสนุนผู้ดูแลในครอบครัว: ผู้ป่วยสามารถขอเปลี่ยนสิทธิในการรับบริการเป็น เงินสนับสนุน สำหรับผู้ดูแลภายในครอบครัวที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐาน

2. พัฒนาผู้ดูแลจากอาสาเป็นอาชีพ: จัดระบบการฝึกอบรมผู้ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน/ติดเตียง ให้ได้ มาตรฐาน และเป็น ฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกัน เพื่อสร้างงานที่มีคุณภาพและมั่นคง

3. พัฒนาระบบธนาคารอุปกรณ์การแพทย์: พัฒนาระบบ ศูนย์หรือธนาคารสำหรับการยืมและคืนอุปกรณ์ สำหรับผู้พึ่งพิงระยะยาว โดยสนับสนุนบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และมีระบบข้อมูลการยืม-คืนที่เชื่อมโยงกัน

ทำอย่างไรให้สำเร็จ? (The HOW)

1. ตั้งกองทุนดูแลผู้ป่วยพึ่งพิงระยะยาวใหม่:

  • เปลี่ยนจากการบริหารงบประมาณแบบเดิมของ สปสช. มาเป็นการให้ผู้ป่วยพึ่งพิง ตัดสินใจเลือกใช้เงินได้เองตามสิทธิ เสมือนเป็นเครดิตที่ผู้ป่วยเลือกการให้บริการที่เหมาะสมกับตัวเองได้ (Patient Vouchers/Credits)

  • กำหนดเพดานงบประมาณที่ผู้ป่วยแต่ละคนจะได้รับสนับสนุน แบ่งตามระดับความพึ่งพิงที่ถูกประเมินและจัด Care Plan โดยแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม

    • กลุ่มผู้พึ่งพิงติดบ้าน: ได้รับบริการสูงสุด 8 ชั่วโมง/สัปดาห์ (อัตรา 60 บาท/ชั่วโมง) และอุปกรณ์สูงสุด 1,500 บาท/คน/เดือน

    • กลุ่มผู้ป่วยพึ่งพิงติดเตียง: ได้รับบริการสูงสุด 16 ชั่วโมง/สัปดาห์ (อัตรา 120 บาท/ชั่วโมง) และอุปกรณ์สูงสุด 2,000 บาท/คน/เดือน

  • คาดว่าต้องใช้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท ในปี 2569 

2. สนับสนุนธนาคารอุปกรณ์: รัฐบาลจะสมทบงบประมาณในการพัฒนาอุปกรณ์และซ่อมบำรุงอุปกรณ์ของศูนย์และธนาคารฯ ที่ขึ้นทะเบียน โดยได้รับความร่วมมือจาก สถาบันอาชีวศึกษาทั่วประเทศ

3. จัดระบบการฝึกอบรมผู้ดูแลผู้ป่วยติดบ้าน/ติดเตียง ให้ได้มาตรฐาน และเป็น ฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกัน เพื่อสร้างงานที่มีคุณภาพและมั่นคง