ปฏิรูประบบยาเพื่อประชาชน

ปฏิรูประบบยาเพื่อประชาชน
อุตสาหกรรมยาใหม่
ระบบข้อมูลกลางด้านยา
ระบบใบสั่งยาทั้งประเทศ
ควบคุมราคายา
ยาแพง
การใช้ยาสมเหตุสมผล
การติดตามผลข้างเคียงยา

ทำไมต้องปฏิรูประบบยาของประเทศไทย? (WHY)

ระบบยา เป็นกลไกที่สำคัญของระบบสาธารณสุขไทย โดยมีค่าใช้จ่ายด้านยาคิดเป็นกว่า 29% ของค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลทั้งหมด แต่ปัจจุบันประเทศไทยเผชิญปัญหาเกี่ยวกับยา 3 ด้านหลัก ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายของประชาชน

  1. วิกฤตความปลอดภัยและสุขภาพ:

    • เชื้อดื้อยา: การใช้ยาปฏิชีวนะเกินจำเป็น นำไปสู่วิกฤตเชื้อดื้อยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 38,000 คนต่อปี

    • อาการไม่พึงประสงค์: ปัญหาการใช้ยาซ้ำซ้อนหรือหลายชนิด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ รวมถึงการลักลอบปนยาในอาหารเสริม ก่อให้เกิดพิษต่อตับและไต

  2. ปัญหาเชิงโครงสร้างอุตสาหกรรมยา:

    • พึ่งพาการนำเข้าสูง: โครงสร้างอุตสาหกรรมยาของไทยยัง อ่อนแอ และพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบและยาสำเร็จรูปจากต่างประเทศสูง สัดส่วนการผลิตในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง

    • ราคายาสูง: ขาดมาตรการควบคุมต้นทุนและราคาอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ยาบางรายการมีราคาสูงเกินความจำเป็น

  3. กฎหมายและระบบข้อมูลล้าสมัย:

    • กฎหมายและระบบกำกับดูแลยาไทยล้าสมัย ทำให้การควบคุมการสั่งใช้ยาและการจำหน่ายยาควบคุมพิเศษไม่เกิดผลจริง โดยเฉพาะในคลินิกเอกชนที่ไม่มีมาตรการบังคับให้ต้องออกใบสั่งยา

    • ประเทศไทยยัง ไม่มีระบบข้อมูลยาแห่งชาติ และ ระบบใบสั่งยาออนไลน์มาตรฐาน ทำให้ข้อมูลด้านยาตั้งแต่รหัสยา ราคายา การสั่งใช้ยา การเบิกจ่าย กระจัดกระจาย ไม่เชื่อมโยงกัน ส่งผลเป็นการลดประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ยา

 

พรรคประชาชนจะทำอะไร? (WHAT)

พรรคประชาชนมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปกฎหมายและโครงสร้างพื้นฐานด้านยา เพื่อให้การใช้จ่ายด้านยามีประสิทธิภาพ คุ้มค่า ยั่งยืน ยกระดับความปลอดภัยในการใช้ยาของประชาชน 

  1. ปรับปรุงกฎหมายยา เพื่อรองรับ ระบบใบสั่งยาแห่งชาติ ที่ใช้ในทุกสถานพยาบาล ทั้งรัฐและเอกชน เพื่อให้ข้อมูลการสั่ง–จ่ายยาเชื่อมโยงกัน ช่วยส่งเสริมการใช้ยาที่สมเหตุผลและเพิ่มความปลอดภัยของประชาชน

  2. ยกระดับอุตสาหกรรมยาไทย ผลักดันการผลิต ยาต้นน้ำ และลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ สนับสนุนผู้ประกอบการให้ปรับปรุงการผลิตให้ได้มาตรฐานสากล เช่น GMP–PIC/S

  3. พัฒนาระบบข้อมูลกลางด้านยา พัฒนา ศูนย์กลางข้อมูลยาแห่งชาติ (National Drug Information Center) เพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางด้านยาตลอดห่วงโซ่ พร้อมพัฒนาและบังคับใช้ ระบบใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ (e-Prescription)

  4. ส่งเสริมการใช้ยาที่สมเหตุผล และเพิ่มความปลอดภัยของประชาชน รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจทั้งในฝ่ายวิชาชีพและประชาชน มีการติดตาม/วิเคราะห์เพื่อแก้ขปัญหาการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม หรือไม่สมเหตุสมผล

ทำอย่างไรให้สำเร็จ? (HOW)

1. ปฏิรูปกฎหมายยาไทยทั้งระบบ

  • ปรับปรุง พ.ร.บ. ยา: เพิ่มบทบัญญัติจัดตั้ง คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ และยกระดับการควบคุมยาควบคุมพิเศษและวัตถุออกฤทธิ์ ให้จ่ายได้เฉพาะตามใบสั่งยาที่ออกโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับอนุญาต พร้อมกำหนดให้สถานที่จ่ายยาทุกประเภทต้องอยู่ภายใต้ใบอนุญาตขายยา เพื่อรองรับระบบใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ระดับประเทศ

  • ปรับปรุง พ.ร.บ. วิชาชีพเภสัชกรรม: ให้สามารถออกข้อบังคับเพื่อกำหนด ขอบเขตงานของแต่ละวิชาชีพ ให้ชัดเจน มีมาตรฐานเดียวกันในการประเมินความรู้และทักษะของผู้ประกอบวิชาชีพทุกสาขา เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามหลักวิชาการและปลอดภัยต่อประชาชน

  • ปรับปรุง พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างฯ: ปรับปรุงกฎระเบียบการจัดซื้อจัดหาให้ ยืดหยุ่นขึ้น และเหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของยา เพื่อให้สถานพยาบาลสามารถจัดซื้อยาได้อย่างคล่องตัวและต่อเนื่อง

2. สร้างอุตสาหกรรมยาใหม่เพื่อความมั่นคง

  • จัดตั้งศูนย์กลางด้านการพัฒนาและผลิตยาต้นน้ำของประเทศ เพื่อเร่งสร้างขีดความสามารถในการผลิตวัตถุดิบยา (API) และลดการพึ่งพาการนำเข้า โดยกำหนด สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน สำหรับโรงงานผลิตวัตถุดิบยา

  • ผลักดันองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงยา 

    • ผลักดันการวิจัยและพัฒนายา แล้วเปิดโอกาสให้เอกชนต่อยอด 

    • เน้นการผลิตหรือจัดหาวัตถุดิบทางยาที่สำคัญ

    • มุ่งผลิต ยากำพร้า หรือยาจำเป็นที่เอกชนไม่ผลิต 

    • รักษาสมดุลด้านราคาและปริมาณยาในช่วงวิกฤต

3. สร้างข้อมูลกลางด้านยาและระบบใบสั่งยาออนไลน์

  • จัดตั้งศูนย์กลางข้อมูลยาแห่งชาติ (NDIC): กระทรวงสาธารณสุขจะจัดตั้ง ศูนย์กลางข้อมูลยาแห่งชาติ เพื่อรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลด้านยาทุกมิติอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนด รหัสยาแห่งชาติ (National Drug Code) และ ราคากลางยาแห่งชาติ (National Drug Reference Price) ให้เป็นมาตรฐานกลางสำหรับยาทุกชนิด

  • พัฒนา e-Prescription: พัฒนาและบังคับใช้ ระบบใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์กลาง (e-Prescription) ให้ครอบคลุมทุกสถานพยาบาลและร้านขายยา เพื่อให้ข้อมูลยาเชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ยา และทำให้ราคายาโปร่งใส