ปฏิรูประบบสาธารณสุขสู่การแพทย์เชิงคุณค่า

ปัจจุบันระบบสุขภาพไทยประสบปัญหาการใช้งบประมาณสูงแต่ผลลัพธ์สวนทาง เนื่องจากเน้นจ่ายเงินตามปริมาณการรักษามากกว่าพิจารณาเรื่องคุณภาพ จึงจำเป็นต้องปฏิรูปสู่ระบบสุขภาพเชิงคุณค่า (Value-Based Health System: VBHC) โดยเปลี่ยนวิธีจัดสรรงบประมาณให้เน้นที่ผลลัพธ์ทาง

ปฏิรูประบบสาธารณสุขสู่การแพทย์เชิงคุณค่า

ทำไมต้องเปลี่ยนสู่ "ระบบสุขภาพเชิงคุณค่า"? (WHY)

เราพบว่าระบบสุขภาพไทยกำลังเผชิญกับแรงกดดัน 3 ด้าน:

  1. งบเพิ่ม แต่ผู้ให้บริการอยู่ไม่ไหว: งบประมาณบัตรทองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2569 สูงถึงประมาณ 200,000 ล้านบาทต่อปี แต่กลับยังไม่เพียงพอ ที่จะทำให้หน่วยบริการยืนได้ด้วยตัวเองและมีความยั่งยืน

  2. งบเพิ่ม แต่สุขภาพไม่ดีขึ้น: แม้งบประมาณจะเพิ่มขึ้น แต่ผลลัพธ์ทางสุขภาพของประชาชนกลับไม่ได้ดีขึ้นตาม ดัชนีชี้วัดที่สำคัญอย่าง การสูญเสียปีสุขภาวะของคนไทย จากการตายก่อนวัยอันควรหรือคุณภาพชีวิตลดลงจากโรคเรื้อรัง เพิ่มขึ้นจาก 10.6 ล้านปี ในปี 2556 เป็น 18.5 ล้านปี ในปี 2562 มีสาเหตุหลักจากโรค เช่น เบาหวาน หัวใจ หลอดเลือดสมอง

  3. ติดกับดัก "เน้นจำนวน มากกว่าคุณภาพ”: ระบบการจัดสรรเงินยังเน้นการจ่ายตาม "การรักษาเป็นครั้ง ๆ" หรือ "ปริมาณบริการ" มากกว่าคุณภาพ เช่น กรณีโรคเบาหวาน แม้จะมีการใช้จ่ายสาธารณสุขสูงถึง 47,000 ล้านบาทต่อปี แต่ความชุกของโรคกลับเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น และมีผู้ป่วยเพียง 29% เท่านั้นที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ 

 

พรรคประชาชนจะทำอะไร? (WHAT)

  1. เปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณ: จากการจัดสรรตาม "ปริมาณการให้บริการ" เป็นการจัดสรรตาม "ผลลัพธ์ทางสุขภาพ" ของประชาชน โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง

  2. ใช้ระบบจ่ายเงินใหม่: นำระบบ การจ่ายเงินแบบมัดร่วมตลอดเส้นทางการดูแลรักษาโรค (Bundled Payment) และ การจ่ายเงินตามผลลัพธ์ (Outcome-Based Payment) มาใช้ เพื่อมอบรางวัล (Incentive) ให้แก่ผู้ให้บริการสุขภาพที่มีคุณภาพในการควบคุมโรคและลดภาวะแทรกซ้อน

ทำอย่างไรให้สำเร็จ? (HOW)

พรรคประชาชนกำหนดแผนดำเนินการใน 3 ระยะ ดังนี้:

1. ระยะสั้น (1–2 ปี)

  • ตั้งคณะกรรมการนโยบายการจัดบริการสุขภาพแบบมุ่งเน้นคุณค่าระดับชาติ เพื่อกำหนดเป้าหมายและกำกับดูแลนโยบายอย่างต่อเนื่อง

  • พัฒนาตัวชี้วัดผลลัพธ์ของโรคเรื้อรัง ทั้งผลลัพธ์ทางคลินิก (เช่น การควบคุมน้ำตาล) และผลลัพธ์ในมุมมองผู้ป่วย รวมถึงต้นทุนการจัดบริการ

  • นำร่องการจัดบริการสุขภาพแบบมุ่งเน้นคุณค่า ในจังหวัดที่พร้อม

  • วิเคราะห์ "งบประมาณที่สอดคล้องผลลัพธ์" (Outcome-Based Budgeting)

2. ระยะกลาง (3–4 ปี)

  • ขยายเครือข่ายการจัดบริการสุขภาพแบบบูรณาการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

  • เปิดเผยผลลัพธ์คุณภาพของสถานพยาบาลให้ประชาชนรับทราบในระดับพื้นที่และระดับประเทศ เพื่อให้ประชาชนใช้ประกอบการตัดสินใจ

  • ปรับระบบจ่ายเงินของทุกกองทุนสุขภาพภาครัฐ (บัตรทอง, ประกันสังคม, ข้าราชการ) ให้ สอดคล้องกันและมุ่งเน้นการจ่ายตามคุณภาพที่ประชาชนได้รับ

  • ใช้ข้อมูลผลลัพธ์มาตัดสินการจัดสรรงบประมาณอย่างโปร่งใส

3. ระยะยาว (5 ปีขึ้นไป)

  • ใช้ระบบการจ่ายเงินแบบมุ่งเน้นคุณค่า (Value-Based Payment) เต็มรูปแบบครอบคลุมโรคสำคัญทั้งหมด

  • เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ (HIE) สมบูรณ์ทั้งประเทศ

  • สร้างระบบสุขภาพที่มีความยั่งยืนและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริง โดยใช้งบประมาณตามความต้องการที่พิสูจน์ได้จริง