ฐานข้อมูลกลางราชทัณฑ์ ป้องกันการทำผิดซ้ำ

จัดทำโปรไฟล์ดิจิทัลผู้ต้องขังรายบุคคลเพื่อวิเคราะห์ความต้องการฟื้นฟูเฉพาะด้าน ทั้งประวัติคดี สุขภาพ และทักษะอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อมคืนคนสู่สังคมและลดการกระทำผิดซ้ำ

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

  • ขาดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน: หน่วยงานหลักในกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ, อัยการ, ศาล, และกรมราชทัณฑ์) ต่างมีระบบฐานข้อมูลของตนเองที่แยกออกจากกัน ทำให้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ไม่สามารถติดตามเส้นทางผู้กระทำผิดได้ครบวงจร: เนื่องจากข้อมูลไม่เชื่อมต่อกัน ภาครัฐจึงขาดเครื่องมือในการติดตามเส้นทางของผู้กระทำผิด ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่กระบวนการจนถึงวันที่พ้นโทษและกลับคืนสู่สังคม

  • ขาดข้อมูลเพื่อการป้องกัน: การขาดฐานข้อมูลที่บูรณาการกัน ทำให้ไม่มีข้อมูลเชิงประจักษ์เพียงพอในการออกแบบมาตรการเพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ

  • ปัญหาข้อมูลแยกส่วนภายในกรมราชทัณฑ์: แม้แต่ในหน่วยงานเดียวอย่างกรมราชทัณฑ์ ยังมีระบบฐานข้อมูลย่อยถึง 17 ระบบ ที่ไม่เชื่อมโยงกันเอง ทำให้การเห็นภาพรวมของผู้ต้องขังทำได้ยาก

  • อุปสรรคต่อการคืนคนดีสู่สังคม: ความไม่เป็นเอกภาพของข้อมูลส่งผลโดยตรงต่อการวิเคราะห์ ประเมิน และการพัฒนาระบบราชทัณฑ์เพื่อลดการกระทำผิดซ้ำอย่างเป็นระบบ

เราจะทำอะไร (WHAT)

พรรคประชาชนเสนอให้จัดตั้ง "ระบบฐานข้อมูลกลางกรมราชทัณฑ์" เพื่อบูรณาการข้อมูลทั้งหมดของผู้ต้องขังในแต่ละเรือนจำเข้าด้วยกัน และใช้ข้อมูลนั้นในการสร้าง “โปรไฟล์ผู้ต้องขังรายบุคคล” สำหรับการฟื้นฟู จับคู่กับตลาดแรงงานในระยะต่อไป และการติดตามประเมินผลหลังพ้นโทษ โดยมีข้อเสนอหลักดังนี้

  1. จัดตั้ง "ระบบฐานข้อมูลกลางกรมราชทัณฑ์": รวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกหน่วยงานภายในกรมราชทัณฑ์ เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศไว้ในฐานข้อมูลเดียว
  2. พัฒนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูล: ใช้ข้อมูลเพื่อ วิเคราะห์ศักยภาพและพัฒนาทุนมนุษย์ ของผู้ต้องขังให้สามารถคืนสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ
  3. ระบบติดตามประเมินผลหลังพ้นโทษ: จัดให้มีระบบติดตามและประเมินผลการฟื้นฟูผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่องหลังพ้นโทษเพื่อวัดประสิทธิภาพของกระบวนการฟื้นฟูและลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

การดำเนินการจะเน้นที่การบูรณาการข้อมูล (Integration) การสร้างโปรไฟล์ (Profiling) และการจับคู่ (Matching) 

  1. การรวบรวมข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลเดียว
    • รวบรวมข้อมูล เช่น ข้อมูลทะเบียนผู้ต้องขัง การศึกษา การฝึกอาชีพ สุขภาพ และพฤติกรรม จากระบบย่อย 17 ระบบ เข้าสู่ฐานข้อมูลกลาง
  2. การสร้างโปรไฟล์ผู้ต้องขังรายบุคคล 
    • จัดเก็บข้อมูลผู้ต้องขังทุกคนของทุกเรือนจำ: ตั้งแต่ข้อมูลส่วนตัว, ประวัติคดี, พฤติกรรมในเรือนจำ ไปจนถึงข้อมูลการศึกษา, การฝึกอาชีพ และหลักสูตรฟื้นฟูพฤตินิสัยที่เข้าร่วม
    • วิเคราะห์และประเมินความต้องการฟื้นฟูเฉพาะบุคคล: เช่น ทักษะอาชีพที่ควรได้รับเพิ่มเติมก่อนปล่อยตัว
  3. การจับคู่ผู้ต้องขังกับตลาดแรงงาน 
    • เชื่อมข้อมูลทักษะและหลักสูตรที่ผู้ต้องขังผ่าน กับระบบจัดหางานของกระทรวงแรงงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการหางานทันทีที่พ้นโทษ
    • จัดเก็บใบรับรองดิจิทัล: สำหรับหลักสูตรฝึกอาชีพ และการเรียนในเรือนจำ เพื่อใช้ยืนยันทักษะเมื่อสมัครงาน
  4. การติดตามและประเมินผล 
    • ติดตามสถานะของผู้พ้นโทษ: เช่น การมีงานทำ, การมีที่อยู่อาศัย, การกระทำผิดซ้ำ
    • บูรณาการข้อมูลร่วมกับกรมคุมประพฤติและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้ประเมินประสิทธิผลของการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง