รัฐธรรมนูญได้ประกัน ความเป็นอิสระของศาลและผู้พิพากษา ในการพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อให้การตัดสินเป็นไปอย่างเที่ยงธรรมและปราศจากอคติ
อย่างไรก็ตาม ระเบียบและข้อกำหนดภายในของศาลยุติธรรมหลายฉบับ ซึ่งมีสถานะเป็นเพียงกฎหมายลำดับรอง กลับเป็นช่องทางให้ผู้บริหารศาลสามารถแทรกแซงการใช้ดุลพินิจโดยอิสระของผู้พิพากษาที่ทำหน้าที่ตัดสินคดีได้
พรรคประชาชนมีข้อเสนอในการปรับปรุง 2 ประการ เพื่อจำกัดอำนาจของผู้บริหารศาลและคุ้มครองความเป็นอิสระของผู้พิพากษา
1. จำกัดขอบเขตการตรวจแก้ร่างคำพิพากษา
กำหนดรูปแบบและวิธีการในการตรวจแก้ร่างคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลไว้อย่างชัดเจนใน พ.ร.บ. พระธรรมนูญศาลยุติธรรม โดยให้จำกัดเฉพาะการตรวจสอบในเชิงรูปแบบเท่านั้น คือ การตรวจสอบข้อผิดพลาดในการพิมพ์ การสะกดคำ รูปแบบการให้เหตุผล รวมถึงการอ้างอิงข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย
2. กำหนดเงื่อนไขที่เคร่งครัดในการเรียกคืนและโอนสำนวนคดี
กำหนดเงื่อนไขเเละหลักเกณฑ์ที่เคร่งครัดในการเรียกคืนและโอนสำนวนคดีไว้ใน พ.ร.บ. พระธรรมนูญศาลยุติธรรมให้มีการโอนสำนวนได้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดเท่านั้น เช่น ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนมีพฤติกรรมที่ไม่สุจริตและฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งไม่ใช้ถ้อยคำในบทบัญญัติที่เปิดช่องให้ศาลตีความหลักเกณฑ์ในการเรียกคืนและโอนสำนวนคดีได้อย่างกว้างขวาง