องค์กรตำรวจไทยกำลังเผชิญกับปัญหาหลัก 3 ด้านที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและการทำงาน:
1. การทุจริตและการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม:
• ปัญหา ซื้อขายตำแหน่ง และระบบ "ตั๋ว" ยังคงเป็นประเด็นหลัก เนื่องจากอำนาจในการจัดสรรบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายถูก รวมศูนย์อยู่ที่ ผบ.ตร. เพียงผู้เดียว แม้จะมีกฎหมายใหม่ (พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565) เป็นแนวทาง แต่ในทางปฏิบัติยังขาดกลไกการถ่วงดุลอำนาจ
2. กลไกตรวจสอบขาดความเป็นอิสระ:
• ระบบตรวจสอบขาดความเป็นอิสระ มักขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาโดยตรง
• กลไกที่มีอยู่ (กร.ตร., ก.พ.ค.ตร.) มีอำนาจหน้าที่ไม่ชัดเจน และ ขาดหน่วยงานกำกับดูแลจากภายนอก ทำให้ขาดความโปร่งใส
• วัฒนธรรม อุปถัมภ์ และการขาดจิตสำนึกต่อหน้าที่ ทำให้การตรวจสอบการทุจริตเป็นไปได้ยาก
3. สวัสดิการและขวัญกำลังใจย่ำแย่:
• ตำรวจต้องแบกรับภาระเอง เนื่องจากสวัสดิการย่ำแย่ เช่น ที่พักอาศัยไม่เพียงพอหรือไม่ได้รับการสำรวจจริง ระบบสวัสดิการการรักษาพยาบาลมีข้อจำกัด
• ขาดแคลนงบประมาณจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์ และอาวุธยุทโธปกรณ์/เทคโนโลยีที่ไม่ทันสมัย
• ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อขวัญกำลังใจและประสิทธิภาพการทำงาน
เราจะดำเนินการปฏิรูปตำรวจอย่างเป็นระบบใน 3 ด้านหลัก เพื่อสร้างความเป็นธรรม เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่
1. สร้างระบบแต่งตั้งที่เป็นธรรมและโปร่งใส
• สร้างระบบ ประเมิน 360 องศา ที่เน้นผลสัมฤทธิ์ของงาน (KPIs) เช่น การก่ออาชญากรรมลดลง จำนวนคดีที่ทำสำเร็จ คุณภาพของสำนวน หรือผลงานด้านบริการประชาชน
• ลดการประเมินเชิงพฤติกรรมหรือความเห็นส่วนตัว เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา
2. สร้างกลไกตรวจสอบและรับเรื่องร้องเรียน
• สร้างระบบ รับเรื่องร้องเรียน ที่ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถร้องเรียนและส่งความเห็นเกี่ยวกับการทำงานของตำรวจได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
3. ยกระดับสวัสดิการ
• ปรับโครงสร้างเงินเดือน ให้เหมาะสม
• จัดสรรงบประมาณสำหรับเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์อาชญากรรมยุคใหม่ รวมถึงงบประมาณพื้นฐานที่จำเป็นในสถานีตำรวจ (เช่น อุปกรณ์สำนักงาน ฯลฯ)
• จัดระบบบ้านพักอาศัยอย่างเป็นธรรม และให้เบิกค่าเช่าบ้านได้ตามจริง
• ขยายสิทธิ รักษาพยาบาล ให้เบิกจ่ายตรงกับโรงพยาบาลในพื้นที่ได้ พร้อมให้สิทธิประโยชน์ครอบคลุมทุกโรค รวมถึงบริการด้านสุขภาพจิตและทันตกรรม
1. อยู่ที่เจตจำนงในการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี
• นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ต.ช. และ ก.ตร. ใช้อำนาจในการออก ระเบียบภายใน เพื่อบังคับใช้มาตรการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันและการซื้อขายตำแหน่งบางส่วนให้ได้ผลเร็วที่สุด โดยไม่ต้องรอการแก้ไข พ.ร.บ.
2. การพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อการตรวจสอบ
• สร้าง แอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ สำหรับการร้องเรียนและรับฟังความเห็น โดยมีระบบการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการที่รวดเร็วและตรวจสอบได้โดยสาธารณะ