แก้ปัญหาหนี้สินทหารชั้นผู้น้อย

แก้ปัญหาหนี้สินทหารชั้นผู้น้อย

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

จากข้อมูลพบว่าในกลุ่มข้าราชการทหารและลูกจ้างสังกัดกระทรวงกลาโหมรวม 250,507 นาย:

  • เงินเดือนเหลือไม่ถึง 30%: มีจำนวนสูงถึง 53,210 นาย (คิดเป็น 21.24%) หลังหักหนี้เงินกู้สหกรณ์

  • เงินเดือนเหลือต่ำกว่า 9,000 บาท: มีจำนวนมากถึง 81,030 นาย (คิดเป็น 32.35%)

ปัญหาหนี้สินที่รุนแรงจนทหาร 1 ใน 3 มีเงินเดือนไม่พอเลี้ยงชีพและดูแลครอบครัว ถือเป็นภัยความมั่นคงที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อขวัญกำลังใจและคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ในช่วงโควิด-19 ซึ่งต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ

นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยว่าการคิดอัตราดอกเบี้ยอาจไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตาม มาตรา 224/1 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องการคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้และการตัดชำระหนี้ กระทรวงกลาโหมและรัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม

 

เราจะทำอะไร (WHAT)

เรามุ่งมั่นที่จะกอบกู้คุณภาพชีวิตทหารให้กลับมามีเงินเดือนเพียงพอต่อการดำรงชีพ ผ่านมาตรการดังนี้:

1. ตรวจสอบความยุติธรรม: ประสาน ธนาคารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบการคิดดอกเบี้ยของสถาบันการเงินต่อทหารที่พักชำระหนี้ ให้สอดคล้องตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ของแบงก์ชาติ

2. ปรับโครงสร้างหนี้: มอบหมายให้ กรมการเงินของเหล่าทัพ, กรมพระธรรมนูญ และ คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชน ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย หาแนวทางปรับโครงสร้างหนี้ให้ทหารมีแผนชำระหนี้ที่ชัดเจนและกลับมามีชีวิตที่ปลอดหนี้ได้จริง

3. กำหนดเกณฑ์เงินเดือนคงเหลือ: เร่งรัดออกระเบียบการหักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้สหกรณ์และสวัสดิการ โดยอ้างอิงมาตรฐานเดียวกับกองทัพอากาศ คือต้องมีเงินเดือนสุทธิคงเหลือไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 และไม่น้อยกว่า 9,000 บาท เพื่อสร้างเอกภาพในการดูแลคุณภาพชีวิตกำลังพล

 

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

ระยะสั้น: มาตรการเร่งด่วนเพื่อการดำรงชีพ

• หารือร่วมกับ ผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการทหารเรือ, ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อออกระเบียบว่าด้วยการหักเงินเดือนเพื่อชำระเงินให้แก่สวัสดิการภายในและสหกรณ์ โดยบังคับให้ทหารต้องมีเงินเดือนเหลือสุทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 และไม่ต่ำกว่า 9,000 บาท ทันที

ระยะกลาง: การปรับโครงสร้างหนี้ที่เป็นธรรม

• ประสานงานกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อตรวจสอบการคิดดอกเบี้ยสถาบันการเงินตามมาตรา 224/1 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

• มอบหมายให้ กรมการเงิน และ กรมพระธรรมนูญ ของทุกเหล่าทัพ ทำงานร่วมกับ คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชน เพื่อออกแบบโมเดลการปรับโครงสร้างหนี้ที่สอดคล้องกับรายได้จริงของกำลังพล

ระยะยาว: การปฏิรูปกฎหมายสหกรณ์

• ปรับปรุงแก้ไข มาตรา 42/1 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2557 หรือที่เรียกว่า "กฎหมายค้ำประกันฉบับใหม่" เพื่อสร้างความคุ้มครองที่เป็นธรรมให้แก่ข้าราชการทหารที่เป็นลูกหนี้และผู้ค้ำประกันของสหกรณ์ออมทรัพย์