นโยบายแก้หนี้สินการเกษตร: คืนชีวิตใหม่ให้เกษตรกรไทย

นโยบายแก้หนี้สินการเกษตร: คืนชีวิตใหม่ให้เกษตรกรไทย

ทำไมต้องแก้ปัญหา (WHY)

หนี้สินเกษตรกรไทยไม่ใช่แค่ปัญหาการเงิน แต่เป็นวิกฤตเรื้อรังที่บั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จากข้อมูลปี 2566 พบว่าเกษตรกรกว่า 63% มีภาระหนี้สิน และยอดหนี้เฉลี่ยต่อครัวเรือนพุ่งสูงถึง 314,087 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในรอบ 10 ปี โดยหนี้โตเร็วกว่ารายได้ถึง 11.8 เท่า

ธนาคารแห่งประเทศไทยวิเคราะห์ข้อมูลสินเชื่อของ ธ.ก.ส. ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พบว่า เราสามารถแบ่งพฤติกรรมการจ่ายหนี้ของเกษตรกรไทย ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

• กลุ่มชำระปกติ: มีเพียง 10% ที่จ่ายได้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย

• กลุ่มหนี้เรื้อรัง: สูงถึง 65% ที่จ่ายได้เพียงดอกเบี้ย ทำให้ติด "กับดักหนี้" กลายเป็นหนี้ข้ามรุ่น

• กลุ่มหนี้เสีย (NPL): อีก 25% ที่ไม่สามารถชำระได้จากรายได้ที่ไม่แน่นอน และส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายของรัฐที่มักเน้นการพักชำระหนี้ หรือการยืดการชำระหนี้ออกไป โดยไม่ได้ช่วยให้เกษตรกรเข้าใจหรือมีทางเลือกในการปรับโครงสร้างหนี้และ/หรือลดหนี้ลงได้

ที่น่ากังวลที่สุดคือ 67% ของเกษตรกรจะไม่สามารถปลดหนี้ได้ก่อนอายุ 70 ปี ภาระหนี้ที่เกินศักยภาพนี้ทำให้เกษตรกรไม่กล้าลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ยึดติดกับการผลิตแบบเดิม และมีต้นทุนการเงินสูงกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องมีนโยบายเข้ามาเพื่อเพิ่มทางเลือกในการจัดการทรัพย์สิน ปรับโครงสร้างการผลิต และสร้างแรงจูงใจในการชำระหนี้ ของเกษตรกรให้ตรงตามเงื่อนไขของแต่ละกลุ่ม

 

พรรคประชาชนจะทำอะไร (WHAT)

นโยบายแบ่งตามกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มหลัก ดังนี้

1. การลดและปลดหนี้สินสำหรับเกษตรกรอายุมากกว่า 70 ปี

• กลุ่มที่ชำระปกติจนครอบคลุมเงินต้นเดิมแล้ว: ปลดหนี้ทันที และถ่ายโอนการบริหารจัดการทรัพย์สินให้ทายาท
• กลุ่มที่ชำระปกติแต่ยังไม่ครอบคลุมเงินต้น: ลดหนี้ลงครึ่งหนึ่ง ปรับตารางชำระใหม่ให้จบภายใน 5 ปี และสามารถถ่ายโอนทรัพย์สินให้ทายาทได้
• กลุ่มที่มีปัญหาการชำระหนี้: นำมาร่วมโครงการปรับสร้างหนี้ตามความเหมาะสมตามข้อ 2.

2. การปรับโครงสร้างหนี้สำหรับเกษตรกรที่มีปัญหาหนี้เรื้อรังและหนี้เสีย

เน้นการปรับโครงสร้างการผลิตร่วมกับการปรับโครงสร้างหนี้ “ลดหนี้เดิม-ปลอดดอกเบี้ย/ชำระคืน 2 ปี-ยืดเวลาชำระ-จัดสรรทุนใหม่” ใน 4 รูปแบบ:

2.1 การปรับเปลี่ยนการผลิตพืชในพื้นที่ไม่เหมาะสม (เป้าหมาย 1 ล้านไร่ภายใน 4 ปี):

  • ลดหนี้เดิม 20% (ไม่เกิน 100,000 บาท/ราย) เมื่อเกษตรกรดำเนินการถึงปีที่ 2 (โดยพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไว้ตั้งแต่ปีแรก)

  • สนับสนุนเงินลงทุนปรับปรุงดิน/ระบบน้ำ และทุนหมุนเวียนพืชใหม่ (เกษตรผสมผสาน)

  • ปลอดดอกเบี้ยและชำระคืน 3 ปี พร้อมประกันภัยพืชผลฟรี

2.2 การลงทุนในระบบน้ำในไร่นา (ขุดแหล่งน้ำ/ระบบ IoT/โซลาร์เซลล์) เป้าหมาย 1 ล้านไร่ภายใน 4 ปี:

  • ลดหนี้เดิม 20% (ไม่เกิน 100,000 บาท/ราย) เมื่อเกษตรกรดำเนินการถึงปีที่ 2 (โดยพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไว้ตั้งแต่ปีแรก)

  • สนับสนุนทางเทคนิคและเงินทุนสำหรับระบบน้ำใหม่ 

  • ปลอดดอกเบี้ยและปลอดการชำระคืน 3 ปี พร้อมประกันภัยพืชผลฟรี

2.3 การปลูกไม้ยืนต้นและไม้เศรษฐกิจ:

  • ลดหนี้ในอัตรา 30,000 บาท/ไร่  (ไม่เกิน 10 ไร่/ราย)

  • สนับสนุนงบดูแล 3,000 บาท/ไร่ในปีแรก และ 1,000 บาท/ไร่ในปีที่ 2-3(โดยมีสัญญาการดูแลระยะยาว)

  • วางแผนรายได้จากการขายไม้เป็นระยะๆ เพื่อลดหนี้และเป็นเงินออม 

  • สิทธิในเนื้อไม้เป็นของเกษตรกรใช้เป็นหลักทรัพย์ได้

3. การเพิ่มแรงจูงใจสำหรับเกษตรกรที่ชำระหนี้ดีต่อเนื่อง โดยเลือกรับสิทธิได้ดังนี้:

  • คืนดอกเบี้ย (หรือลดดอกเบี้ย) 10% เพื่อใช้ปรับปรุงการผลิตปีถัดไป

  • หักเงินต้น โดยรัฐสมทบการหักเงินต้นเพิ่มเติม

  • รับคูปองปรับเพิ่มประสิทธิภาพ (แปรรูป/ปุ๋ยแม่นยำ/ฝึกอบรม)

  • สะสมคะแนนเครดิต เพื่อรับส่วนลดดอกเบี้ย 1-2% หากต้องการกู้ขยายกิจการ

 

ทำอย่างไรให้สำเร็จ (HOW)

เพื่อให้เป้าหมายการปลดหนี้เกิดขึ้นจริง พรรคประชาชนจะขับเคลื่อนผ่าน 4 กลไกหลัก:

1. ประมวลบัญชีลูกหนี้สูงวัย: ประมวลบัญชีลูกหนี้ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปรายคน เพื่อจำแนกการปลดและลดหนี้ให้ถูกต้องตามเกณฑ์

2. จัดทำ "แพ็กเกจแก้หนี้": ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และเกษตรกรแต่ละราย ซึ่งประกอบด้วย

  • ทางเลือกในการปรับโครงสร้างการผลิตในแต่ละพื้นที่

  • ทางเลือกในการจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่และสำหรับแต่ละพืช

  • ทางเลือกในการปลูกไม้ยืนต้น ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละพื้นที่ และให้ผลตอบแทนมาเป็นระยะๆ 

3. ระบบติดตามดิจิทัล: ติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เกษตรผ่านภาพถ่ายดาวเทียมรายแปลง และจัดตั้งศูนย์ติดตามผลระดับจังหวัดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างใกล้ชิด

4. ปฏิรูปตัวชี้วัด ธ.ก.ส.: ปรับเปลี่ยนจากการเน้น "กำไร" มาเป็นการวัดผลที่ความสำเร็จใน 3 ด้าน คือ

  • การปรับลดและปลดหนี้สินของเกษตรกรผู้สูงอายุ และเกษตรกรทั่วไป

  • จำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมการปรับโครงสร้างหนี้ และสามารถดำเนินโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

  • จำนวนแปลงเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ และการดูดซับก๊าซเรือนกระจก