ประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างที่ส่งผลให้กลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ว่างงาน ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง ปัญหาสำคัญไม่ได้อยู่ที่การขาดแคลนสวัสดิการเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่กลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก "เข้าไม่ถึงสิทธิ" เนื่องจากเข้าไม่ถึงข้อมูลและไม่มั่นใจในกระบวนการของรัฐ
ในปัจจุบัน หน่วยงานภาครัฐมักจัดบริการในลักษณะ "ตั้งรับ" คือรอให้ผู้เดือดร้อนเข้ามาหาเอง ทำให้เกิดการตกหล่นของกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุด ซึ่งขัดกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือกลุ่มที่ลำบากที่สุดก่อน แนวทางที่เป็นอยู่จึงยิ่งซ้ำเติมปัญหาความยากจนข้ามรุ่นและความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย
พรรคประชาชนสนับสนุนการจัดตั้ง "ศูนย์ครอบครัวเข้มแข็ง" เพื่อเป็นระบบสนับสนุนครอบครัวในระดับชุมชน (Community-based Family Support System) มีลักษณะเป็นกลไกอาสาสมัครที่ประชาชนรวมตัวกันจัดตั้งขึ้นเพื่อทำงานเชิงรุก และสามารถจดทะเบียนเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์กับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
งบประมาณ: ศูนย์ฯ สามารถขอรับงบประมาณอุดหนุนได้จากทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ พม. เพื่อเป็นตัวช่วยให้รัฐบรรลุภารกิจสร้างความมั่นคงของมนุษย์ และช่วยให้ท้องถิ่นจัดบริการสาธารณะได้ทั่วถึง โดยในอนาคตสามารถพัฒนาองค์กรเพื่อยกระดับเป็น วิสาหกิจในระดับชุมชน
ภารกิจหลักเชิงรุก:
ปกป้องสิทธิของประชาชน และป้องกัน/แก้ไขความรุนแรงทุกรูปแบบ
เยี่ยมบ้านวิถีชุมชน: จัดเก็บข้อมูลคุณภาพชีวิตทุกกลุ่มวัยอย่างละเอียด
วิเคราะห์และส่งต่อสิทธิ: ร่วมกับ กองสวัสดิการชุมชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนำประชาชนเข้าสู่ระบบสวัสดิการที่เหมาะสม หรือส่งต่อคดีวิกฤตเข้าสู่ระบบคุ้มครองสหวิชาชีพระดับจังหวัด
ออกแบบนโยบายท้องถิ่น: สนับสนุนข้อมูลให้ท้องถิ่นนำไปบรรจุใน ข้อบัญญัติ/เทศบัญญัติ หรือแผนพัฒนาท้องถิ่นเพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุด
ศูนย์บริการสาธารณะชุมชน: ยกระดับเป็นหน่วยจัดบริการ เช่น ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก, โปรแกรมหลังเลิกเรียน (After School Programme), แหล่งเรียนรู้ชุมชน และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุกลางวัน (Day Care)
การปฏิรูประบบงานของ พม.: ปรับปรุงกฎกระทรวงและระเบียบของ ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) เดิมที่สังกัดเพียงกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ให้กลายเป็นกลไกหลักของกระทรวง โดยอาจโอนย้ายมาสังกัด สำนักงานปลัดกระทรวง เพื่อบูรณาการทรัพยากรจากทุกกรมให้ทำงานร่วมกันได้จริง
บูรณาการข้ามหน่วยงาน: จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU/MoA) ระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางกลไกขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับ พ.ร.ฏ. การบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ เชื่อมโยงตั้งแต่ระดับชาติไปจนถึงท้องถิ่น
พัฒนาศักยภาพบุคลากร: ฝึกอบรมทีมงานประจำศูนย์ให้เป็นมืออาชีพ สามารถให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเบื้องต้นได้อย่างทันท่วงที
ระบบติดตามและประเมินผล: สร้างระบบประเมินผลต่อเนื่องเพื่อลดปัญหาการตกหล่นจากระบบสิทธิสวัสดิการ และการป้องกัน/แก้ไขปัญหาความรุนแรงทุกรูปแบบ