1. ปัญหา "แก่ก่อนรวย": ประเทศไทยมีผู้สูงอายุที่มีรายจ่ายต่ำกว่าเส้นความยากจน (3,078 บาท) กว่า 1 ล้านคน ผู้สูงอายุกว่า ร้อยละ 40 มีเงินออมเฉลี่ยไม่ถึง 50,000 บาท และผู้สูงอายุเพียงประมาณ 2 ล้านคนเท่านั้นที่มีบำเหน็จบำนาญจากการทำงาน ทำให้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในการดำรงชีพ
2. เบี้ยยังชีพไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ: เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุยังคงเป็นแบบ ขั้นบันไดตามช่วงอายุ ตั้งแต่เดือนละ 600–1,000 บาท โดยไม่มีการปรับเพิ่มมาตั้งแต่ปี 2556
เราเสนอปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพิ่มเป็น 1,000 บาท ถ้วนหน้าในเดือนตุลาคมปี 2469 และขยายเป็น 1,500 บาทต่อเดือน ภายในปี 2573 เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพมากขึ้น เป้าหมายเพื่อให้ผู้สูงอายุที่ยากจนที่สุด 5% สุดท้ายของประเทศ พ้นจากเส้นความยากจน โดยหากใช้มาตรการนี้แล้วจะทำให้ผู้สูงอายุหลุดพ้นจากความยากจนจำนวน 870,000 คน หรือประมาณ 87% ของผู้สูงอายุที่ยากจนทั้งหมดในปัจจุบัน
ออกมติคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับอัตราเบี้ยผู้สูงอายุ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยจะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 1.72 แสนล้านบาทต่อปี