เพิ่มอำนาจการคลังให้ท้องถิ่น

เพิ่มอำนาจการคลังให้ท้องถิ่น
กระจายอำนาจ
ท้องถิ่น
พัฒนาเมือง
การเงินการคลัง

ทำไมต้องปลดล็อกเครื่องมือทางการคลังใหม่ๆ ให้ท้องถิ่น (the WHY)

ปัจจุบัน ระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ได้จำกัดอำนาจและเครื่องมือทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อย่างรุนแรง  สิ่งนี้สะท้อนผ่านโครงสร้างรายได้ที่ อปท. จัดเก็บเองได้เพียง 11% เท่านั้น ขณะที่อีก 89% เป็นรายได้จากรัฐส่วนกลาง ที่จัดสรรและอุดหนุนให้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ อปท. ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมหรือริเริ่มเครื่องมือทางการคลังใด ๆ ได้เอง การจะร่วมลงทุนกับเอกชนหรือขอกู้เงินก็ต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องขออนุญาตจากส่วนกลาง ทำให้สัดส่วนรายได้ที่ อปท. จัดเก็บเองได้จึงน้อยมาก

ปัญหาดังกล่าว ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขาดอิสระทางการคลัง นำไปสู่ปัญหาความเป็นอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อจัดทำบริการสาธารณะตามความต้องการของท้องถิ่น เนื่องจากต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่มีอย่างจำกัดและมีกำหนดโครงการตามนโยบายของรัฐบาล

 

พรรคประชาชนจะทำอะไร (the WHAT)

พรรคประชาชนจะเพิ่มอำนาจ ปลดล็อกเครื่องมือทางการเงินการคลัง และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ให้ อปท. เพื่อให้มีงบประมาณเพิ่มขึ้นในการพัฒนาท้องถิ่นตามโอกาสและศักยภาพของตนเอง:

1. เพิ่มอำนาจในการจัดเก็บรายได้ใหม่

• เพิ่มรายได้ใหม่: โอนอำนาจการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบางประเภทให้ท้องถิ่น เช่น ค่าธรรมเนียมแรงงานต่างชาติ, ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโรงแรม, สถานบริการ, โรงงาน ฯลฯ

• เพิ่มอำนาจค่าธรรมเนียมในท้องถิ่น: เพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถกำหนดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ภายในพื้นที่เพิ่มเองได้โดยการออกเป็นข้อบัญญัติท้องถิ่น เช่น ค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย, ค่าธรรมเนียมเขตจราจรหนาแน่น ฯลฯ

• ร่วมมือจัดเก็บรายได้: อนุญาตให้ท้องถิ่นร่วมมือจัดเก็บรายได้กับรัฐวิสาหกิจ เช่น การประปาภูมิภาค, การประปานครหลวง, กรมขนส่งทางบก

2. เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้เดิม

• ใช้เทคโนโลยีสำรวจ: สนับสนุนให้ อปท. ใช้เทคโนโลยี เช่น โดรนสำรวจและกล้อง LiDAR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการจัดเก็บภาษีป้าย และ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

• เชื่อมโยงข้อมูล: เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกรมสรรพากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น เช่น ค่าธรรมเนียมผู้พักในโรงแรม หรือค่าบำรุง อบจ. จากปั๊มน้ำมัน

3. ปลดล็อกเครื่องมือการเงินการคลัง 

• ปลดล็อกการลงทุน: เพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถจัดตั้งหรือลงทุน วิสาหกิจท้องถิ่น หรือ บริษัท ได้เอง หรือร่วมมือกันจัดตั้ง สหการ ร่วมกับท้องถิ่นหรือหน่วยงานรัฐที่ท้องถิ่นต้องการ

• ปลดล็อกการร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP): ลดขั้นตอนและกฎระเบียบกระบวนการร่วมลงทุนกับเอกชน (Private Public Partnership - PPP) เพื่อให้ อปท. สามารถดำเนินการร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาบริการสาธารณะที่กำหนดได้เร็วขึ้น

• ปลดล็อกการกู้เงิน: ลดขั้นตอนและกฎระเบียบกระบวนการกู้เงินของ อปท. เพื่อให้สามารถกู้เงินลงทุนพัฒนาบริการสาธารณะภายใต้วินัยการคลังที่รัดกุมได้

• ระดมทุนโครงสร้างพื้นฐาน: เพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถจัดตั้ง วิสาหกิจเฉพาะกิจ (SPV, Special Purpose Vehicle) และระดมทุนจากสาธารณะ (Public Fundraising) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เองได้

ทำอย่างไรให้สำเร็จ? (the HOW)

การเพิ่มอำนาจทางการคลังนี้ต้องอาศัยการแก้ไขและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ:

1. ปรับปรุงกฎหมายกระจายอำนาจ

• ปรับปรุง พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ เพื่อเพิ่มอำนาจและเครื่องมือการเงินการคลังให้ท้องถิ่นสามารถออกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเองได้, จัดตั้งหรือลงทุนวิสาหกิจท้องถิ่น/สหการ และจัดตั้งวิสาหกิจเฉพาะกิจเองได้ 

2. ปรับปรุงกฎหมายลูกด้านการคลังและการลงทุน

• ปรับปรุงกฎหมายลูกตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน และ พ.ร.บ. บริหารหนี้สาธารณะ เพื่อลดขั้นตอนกระบวนการร่วมลงทุนกับเอกชนและการกู้เงินของ อปท.

3. ปรับปรุงกฎหมายเพิ่มรายได้ใหม่

• ปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มรายได้ใหม่ ๆ ให้กับท้องถิ่น เช่น ร่าง พ.ร.บ. คนต่างชาติ, พ.ร.บ. โรงแรม, พ.ร.บ. สถานบริการ, พ.ร.บ. โรงงาน ฯลฯ เพื่อโอนอำนาจการจัดเก็บค่าธรรมเนียมให้ท้องถิ่น

4. สนับสนุนเทคโนโลยีและข้อมูล

• สนับสนุนเทคโนโลยี: ให้ท้องถิ่นสามารถเลือกใช้บริการโดรนสำรวจ/กล้องหน้ารถ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ภาษีป้ายและภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

• เชื่อมโยงข้อมูล: เชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ เช่น ข้อมูลรายได้โรงแรมและสถานีปั๊มน้ำมันจากกรมสรรพากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของ อปท.