ปัญหาหลักคือความเหลื่อมล้ำทางการคลังระหว่างท้องถิ่นที่รุนแรง โดยปัจจุบัน อปท. ในจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวประชากรต่ำ อาจมีงบประมาณเพียง 8,000 – 11,000 บาทต่อประชากร ในขณะที่จังหวัดที่รวยอาจมีรายได้สูงกว่า 14,000 บาทต่อประชากร
สาเหตุของปัญหาคือ:
• ขาดการคำนวณต้นทุนที่แท้จริง: ระบบงบประมาณและการจัดสรรเงินอุดหนุนยังไม่มีการกำหนด สูตรคำนวณงบประมาณขั้นต่ำ ที่เหมาะสมกับต้นทุนที่ท้องถิ่นต้องใช้ในการจัดทำบริการสาธารณะที่มีคุณภาพ
• ท้องถิ่นขาดงบพื้นฐาน: ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ อปท. โดยเฉพาะขนาดเล็ก ขาดแคลนงบประมาณในการจัดทำบริการสาธารณะพื้นฐาน ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์และไม่ได้รับบริการที่มีมาตรฐาน
พรรคประชาชนจะเปลี่ยนวิธีการจัดสรรงบประมาณ โดยใช้หลักการ "งบประมาณขั้นต่ำตามภารกิจ" เพื่อให้ อปท. ทุกแห่งมีเงินทุนที่เพียงพอในการจัดทำบริการสาธารณะตามมาตรฐานขั้นต่ำที่รัฐต้องการสนับสนุน และจูงใจให้พัฒนาบริการให้มีคุณภาพสูงขึ้น
เราจะใช้ "เงินอุดหนุนทั่วไป" เป็นกลไกหลักในการชดเชยงบประมาณที่ขาดหายไป โดยกำหนด 3 สมการหลักในการคำนวณ:
1. สูตรการคำนวณ "งบประมาณขั้นต่ำ" (Minimum Budget)
สูตรนี้เป็นการกำหนดเงินขั้นต่ำที่ อปท. ต้องมี เพื่อให้สามารถจัดทำบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพได้ โดยอ้างอิงจากต้นทุนต่อหน่วยของแต่ละภารกิจ มีวิธีคิดดังนี้
งบประมาณขั้นต่ำ = ∑ จำนวนภารกิจหรือบริการสาธารณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำ
2. สูตรการคำนวณ "รายได้พึงมี" (Potential Revenue)
สูตรนี้ใช้เพื่อจูงใจและแนะนำให้ อปท. ที่มีศักยภาพทางการคลัง สามารถจัดเก็บรายได้ของตนเอง (เช่น ค่าธรรมเนียม, ค่าบริการ) ให้สอดคล้องกับมาตรฐานบริการที่รัฐสนับสนุน โดยมีวิธีคำนวณคือ
รายได้พึงมี = ∑ ผลรวมรายได้ที่ควรจะจัดเก็บได้เอง + ∑ ผลรวมรายได้ที่จะได้รับจัดสรรจากรัฐตามกฎหมาย
3. สูตรการคำนวณ "เงินอุดหนุนทั่วไป" (General Grant)
เงินอุดหนุนทั่วไปจากรัฐบาลกลางจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการ ชดเชยส่วนต่าง เพื่อให้ อปท. ที่มีฐานะทางการคลังต่างกัน มีงบประมาณรวมขั้นต่ำที่เพียงพอในการให้บริการประชาชนได้ตามมาตรฐาน ซึ่งเงินอุดหนุนทั่วไปคิดมาจาก
เงินอุดหนุนทั่วไปตามภารกิจถ่ายโอน = งบประมาณขั้นต่ำ - รายได้พึงมี
การปฏิรูประบบจัดสรรงบประมาณนี้ต้องอาศัยความร่วมมือและการกำหนดมาตรฐานจากหลายหน่วยงาน
1. กำหนดมาตรฐานบริการสาธารณะ:
• กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) หรือ หน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลบริการสาธารณะโดยตรง (เช่น กรมควบคุมมลพิษ) ต้องกำหนด มาตรฐานบริการสาธารณะ ที่ชัดเจนสำหรับ อปท. รวมถึงกำหนดข้อมูลที่ต้องวัดผลและรายงานต่อสาธารณะ
2. กำหนดสูตรต้นทุนและราคาแนะนำ
• สำนักงบประมาณ จะต้องกำหนด สูตรคำนวณต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) และ ราคาค่าบริการแนะนำ สำหรับแต่ละบริการสาธารณะที่ต้องการสนับสนุนให้ท้องถิ่นจัดทำตามมาตรฐานที่กำหนด
3. ประกาศรายการเงินอุดหนุน
• คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ต้องประกาศกำหนดรายการเงินอุดหนุนทั่วไปสำหรับแต่ละบริการสาธารณะที่ต้องการสนับสนุนให้ท้องถิ่นจัดทำ
4. วัดผลและเปิดเผยข้อมูล
• กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) หรือ หน่วยงานกำกับดูแลบริการสาธารณะ (เช่น กรมควบคุมมลพิษ) จะต้องวัดผลบริการสาธารณะที่ อปท. จัดทำ เปรียบเทียบกับมาตรฐานที่กำหนด และ เปิดเผยผลการวัดผลให้สาธารณะรับทราบและตรวจสอบได้